สรุปให้ "ดีลลับ เกาะลังกาวี" คืออะไร รัฐบาลไร้ก้าวไกล ย้อนอดีตเคยเจรจาไฟใต้

เรียกได้ว่าเป็นตัวตึงของวงการแฉ สำหรับ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีตนักการเมือง ฉายา “จอมแฉ” หลังได้ออกมาโพสต์ข้อความ “ดีลลับรัฐบาลใหม่ ไม่มีก้าวไกล” จน “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ต้องออกมาโพสต์ข้อความปฏิเสธผ่านทวิตเตอร์ว่า

"ผมงงมากกับดีลลับที่คุณชูวิทย์พูด ทั้งๆ ที่น้องอิ๊งค์ก็ยืนยันที่จะสนับสนุนคุณพิธาเป็นนายกฯ และผมเองก็ไม่ได้พบตัวแทนพรรคไหนเลย แม้กระทั่งโทรศัพท์ก็ไม่มี งงจริงๆ ครับ"

และล่าสุด ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  ได้ออกมาโพสต์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองอีกครั้งว่า..."ดีลลับลังกาวี" ไกลจากไทยแค่ 4 กิโลเมตร และใกล้สิงคโปร์ ที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย มีการประชุมลับ “ดีลพิเศษ” สนับสนุนให้ "ก้าวไกล" เป็นฝ่ายค้าน และให้ “เพื่อไทย” ถอยไปเป็นรัฐบาลขั้วใหม่กับ "ภูมิใจไทย" , "พลังประชารัฐ" , "ประชาธิปัตย์" , "ชาติไทยพัฒนา"

"ด้วยความเคารพ ผมคิดว่าประชาชนคนไทยที่หย่อนบัตรเลือกตั้งมีสิทธิจะรู้ ประชุม ดีลเดิมต้องล้ม ดีลใหม่ไม่มีก้าวไกล ถึงกลับบ้านได้ แต่นี่เป็นวิถีฝืนธรรมชาติ ผมพูดได้แค่นี้ ไม่ได้ขัดใคร สนับสนุนให้บ้านเมืองสงบ อย่ามาบอกว่าผมปั่นบาปกรรมตาย" 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• "ทักษิณ" โต้ดีลลับ “ชูวิทย์” รัฐบาลใหม่ไม่มีก้าวไกล ยันได้ไม่คุยพรรคไหนเลย

• เลือกตั้ง 2566 "ชูวิทย์" แฉอีก! หัวคะแนนแจกเงินซื้อเสียง กทม. รายละ 500-1,000

• ชูวิทย์ บุกเวทีพปชร.ถาม ประวิตร จุดยืนกัญชาเสรี ลุงป้อม ไม่เห็นด้วยใช้เสรี

"ดีลลับลังกาวี" บุคคลที่คาดว่าเกี่ยวข้อง 

- คนแดนไกลที่คุณก็รู้ว่าใคร

- นักธุรกิจใหญ่

- คนมีสี

ซึ่ง นิทรรศการการบินและการเดินเรือ” หรือ LIMA 2023 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-27 พ.ค. 2566 และจะจัดขึ้นที่ลังกาวี โดยหลายครั้งที่ผ่านมา “คนแดนไกล” ชอบร่วมงานประเภทนี้ จึงเดินทางไป พบปะกับคนสำคัญจากประเทศไทย ทั้งนักธุรกิจและคนมีสี อย่างไรก็ตามไม่ยืนยันว่ามีการพบกันจริงหรือไม่ และจากข้อมูลของเสี่ยชูวิทย์ อ้างว่าเป็นดีลเรื่อง “รัฐบาลขั้วใหม่นำโดยเพื่อไทย” และผลัก “ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน”

 

ในอดีต “ลังกาวี” เคยเป็นสถานที่ “พูดคุยเจรจาดับไฟใต้” ในช่วงรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ดร.มหาธีร์ โมฮาหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียซึ่งครองอำนาจรัฐยาวนานถึง 22 ปี เป็นคนกลางในการเจรจาพบปะพูดคุยกับบรรดาขบวนการแบ่งแยกดินแดน และตัวแทนรัฐบาลไทย พล.อ.ไวพจน์ ศรีนวล สมัยที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) ซึ่งการเจรจาเกิดขึ้นที่ลังกาวี จึงมีชื่อเรียกดีลนี้ว่า “ดีลลับลังกาวี”

ต่อมามีการพบปะเจรจากันอย่างต่อเนื่องหลายครั้งและการลงนามในเอกสารที่เรียกว่า Peace Proposal เกิดขึ้นในวันแห่งความรัก 14 ก.พ. 2549 มีผู้ร่วมลงนามคือบรรดาแกนนำขบวนการแบ่งแยกดินแดน โดยมี ดาโต๊ะ ชาซ์ริล เอสเคย์ บิน อับดุลละห์ กงสุลกิตติมศักดิ์ไทย ประจำเกาะลังกาวี คนสนิทของมหาธีร์ ร่วมลงนามในฐานะ "ผู้ไกล่เกลี่ย"

สุดท้ายแผนสันติภาพฯ แผนดับไฟใต้ไม่เป็นผล เพราะเกิดการรัฐประหารขึ้นในประเทศไทย โค่นล้มรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ดีลลับลังกาวี ที่ทำมาจึงยุติลง

อย่างไรก็ตาม ดีลลับลังกาวี โผล่มาอีกครั้งหลังเลือกตั้งล่าสุด แต่คราวนี้ไม่ใช่เจรจาดับไฟใต้แต่เป็นเรื่องการเมือง ซึ่งบทสรุปจะไปในทิศทางไหนยังไม่มีใครรู้ 

ประวัติ"เกาะลังกาวี" 

เกาะลังกาวี ตั้งอยู่ในอาณาเขตของประเทศมาเลเซีย เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นอุทยานธรณีของโลกจากยูเนสโก เนื่องจากเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ทะเล 

"ลังกาวี" เป็นเกาะท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในรัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ห่างจากเกาะตะรุเตา จ.สตูล เพียงแค่ 4 กิโลเมตรเท่านั้น นับเป็นเกาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ประเทศไทยอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ลังกาวียังได้รับยกย่องให้เป็น "อัญมณีแห่งไทรบุรี" ชื่อนี้ได้มาเพราะว่าในอดีตเกาะลังกาวีเคยเป็นส่วนหนึ่งของเมืองไทรบุรี หนึ่งในดินแดนของสยาม จนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ถึงได้เสียให้กับอังกฤษ

ในอดีต "เกาะลังกาวี" มีตำนานเรื่องราวของ "พระนางมัสสุหรี" สาวไทยชาว จ.ภูเก็ต ที่แต่งงานกับ "พระอนุชาขององค์สุลต่านแห่งลังกาวี" แต่โดนใส่ร้ายว่ามะห์สุหรีคบชู้จนต้องโทษประหารชีวิต ก่อนสิ้นพระชนม์พระนางได้กล่าวออกมาว่า "หากไม่มีความผิดขอให้โลหิตเป็นสีขาว” อีกทั้งยังสาปให้ลังกาวีไร้ความสงบสุขและความเจริญไป 7 ชั่วคน" ครั้นเมื่อเพชฌฆาตแทงกริช สายโลหิตของมะห์สุหรีก็พวยพุ่งเป็นสีขาวดังคำสัตย์และสิ้นใจ

จากนั้นทำให้ลังกาวีอยู่อย่างเงียบงันมากกว่า 100 ปี จนเมื่อปี พ.ศ.2543 รัฐบาลมาเลเซียได้เชิญทายาทรุ่นที่ 7 ซึ่งเป็นสาวไทยไปทำการถอนคำสาปของเกาะ รวมทั้งรัฐบาลมาเลเซียได้สนับสนุนการท่องเที่ยวมากขึ้น จนทำให้ลังกาวีกลายมาเป็นอัญมณีแห่งไทรบุรี เป็นเกาะท่องเที่ยวยอดฮิตอีกเกาะหนึ่งที่ไม่ไกลจากประเทศไทย