วันส้วมโลก (World Toilet Day) ถูกกำหนดขึ้นเพื่อเน้นความสำคัญของการเข้าถึงห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของสุขภาพและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก วันส้วมโลกตรงกับวันที่ 19 พฤศจิกายน ของทุกปี
วันส้วมโลกเริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 2001 โดยองค์กรที่ชื่อว่า World Toilet Organization ซึ่งก่อตั้งโดยคุณ แจ็ค ซิม (Jack Sim) นักกิจกรรมชาวสิงคโปร์ที่มุ่งเน้นการสร้างความตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนห้องน้ำทั่วโลก
แจ็ค ซิม ได้รับการยกย่องว่าเป็น "Mr. Toilet" เพราะเขามีบทบาทสำคัญในการรณรงค์เกี่ยวกับสุขอนามัยและห้องน้ำ
ต่อมาในปี 2013 องค์การสหประชาชาติ (United Nations) ได้ประกาศรับรองวันส้วมโลกอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals - SDGs) โดยเฉพาะ เป้าหมายที่ 6 ซึ่งเกี่ยวกับการเข้าถึงน้ำสะอาดและสุขาภิบาลที่ดีสำหรับทุกคนภายในปี 2030
ปัญหาเรื่องสุขาภิบาลที่ไม่เพียงพอเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกที่ยังคงส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่มีรายได้น้อย แม้ว่าจะมีความพยายามในการปรับปรุงสถานการณ์ แต่ก็ยังมีหลายประเทศที่เผชิญกับความท้าทายด้านสุขาภิบาลอย่างมาก
การระบุประเทศที่เฉพาะเจาะจงว่ามีปัญหาสุขาภิบาลรุนแรงที่สุดนั้นค่อนข้างยาก เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ประเทศในภูมิภาคต่อไปนี้มักถูกระบุว่ามีปัญหาสุขาภิบาลรุนแรง:
แอฟริกา: หลายประเทศในแอฟริกาใต้ทะเลทรายและแอฟริกากลางยังคงเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาดและสุขาภิบาล
เอเชียใต้: ประเทศบางประเทศในเอเชียใต้ เช่น อินเดีย และเนปาล ยังมีประชากรจำนวนมากที่ไม่มีห้องส้วมใช้
คำว่า "สุขา" มาจากภาษา บาลี-สันสกฤต หมายถึง "ความสุข" หรือ "สถานที่ที่นำมาซึ่งความสุข"
การใช้คำนี้จึงสะท้อนถึงการมองห้องน้ำหรือสถานที่ขับถ่ายว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างสุขอนามัยและความสะดวกสบาย ซึ่งเป็นความสุขขั้นพื้นฐานของมนุษย์
ในอดีตคำว่า "ส้วม" (ที่มาจากคำว่า "ซุ่ม" ซึ่งแปลว่า เพิงหรือที่หลบซ่อน) ใช้เรียกสถานที่ขับถ่ายแบบง่าย ๆ ที่มักสร้างอยู่นอกบ้าน เช่น ส้วมหลุม หรือส้วมเพิง
ต่อมาคำว่า "ส้วม" อาจถูกมองว่าไม่สุภาพในบางบริบท จึงมีการใช้คำว่า "ห้องสุขา" ซึ่งฟังดูสุภาพและเป็นทางการกว่า โดยเฉพาะในการเรียกสถานที่ขับถ่ายในพื้นที่สาธารณะ เช่น อาคารสำนักงาน โรงเรียน หรือโรงพยาบาล
เมื่อแนวคิดเรื่องสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อมพัฒนาขึ้น ห้องน้ำหรือห้องสุขาไม่ได้เป็นเพียงที่ขับถ่าย แต่ยังถูกมองว่าเป็นสถานที่ที่ต้องรักษาความสะอาดและสุขลักษณะอย่างดี
คำว่า "ห้องสุขา" จึงช่วยสะท้อนถึงความสำคัญของสุขอนามัยและการพัฒนาไปสู่สังคมที่ทันสมัย
คำว่า "สุขา" เป็นคำที่มีความหมายกว้างในภาษาไทย และยังใกล้เคียงกับคำในภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับสุขอนามัย เช่น Sanitation หรือ Hygiene
การใช้คำนี้จึงสื่อถึงความเป็นระบบและมาตรฐานในเรื่องห้องน้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง