svasdssvasds

หมอนิติเวช เผย ผลตรวจเลือดเมาแล้วขับ คลาดเคลื่อนทุกชั่วโมง แนะควรตรวจทันที

หมอนิติเวช เผย ผลตรวจเลือดเมาแล้วขับ คลาดเคลื่อนทุกชั่วโมง แนะควรตรวจทันที

ผู้เชี่ยวชาญนิติเวชศาสตร์ เผย แอลกอฮอล์ในเลือด ลดลง 15-20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทุก 1 ชั่วโมง ควรรีบตรวจทันที แม้มีสูตรคำนวณย้อนหลัง แต่จากประสบการณ์ยังไม่การระบุในสำนวนคดี

จากกรณีที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่อง การตรวจผลวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ของผู้ขับขี่รถยนต์หรูเบนท์ลีย์ ที่ก่อเหตุพุ่งชนรถคู่กรณีบนทางด่วนเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 7 มกราคม ต่อเนื่องเช้าวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ว่ามีผลการตรวจอยู่ที่ 16 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และพนักงานสอบสวนไม่ได้มีการแจ้งข้อหาเมาแล้วขับกับผู้ขับขี่

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

วันที่ 11 มกราคม 2566 ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ผู้เชียวชาญนิติเวชศาสตร์ ระบุว่า จากประสบการณ์การทำงานที่เคยตรวจเคสแบบนี้ มามากกว่า 20 ปี ยืนยันว่า การตรวจวัดพิสูจน์ปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดต้องทำการตรวจหลังจากเกิดเหตุไม่นาน เพราะโดยเฉลี่ย ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของมนุษย์จะลดลง 15-20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ในทุกๆ 1 ชั่วโมง หากมีการตรวจล่าช้าก็จะยิ่งทำให้ผลที่ได้คลาดเคลื่อน

แม้ว่า จะมีสูตรคำนวนในการคิดหาค่าปริมาณแอลกอฮอล์ย้อนหลังไปถึงช่วงจุดเกิดเหตุ แต่ในทางกฎหมายจากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่พบว่าจะสามารถนำผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณย้อนหลังไปใช้ในสำนวนคดี เพราะตำรวจต้องใช้ผลที่ได้เป็นเอกสาร ซึ่งผลดังกล่าวคือผลปัจจุบันที่ได้จากการตรวจนะเวลานั้น

 

ทั้งนี้เคยมีงานวิจัยที่ทำการตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของมนุษย์ ที่พบว่า มีการเจาะเลือดตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์หลังจากที่ดื่มกินและมึนเมาไปนาน 5 ชั่วโมง พบว่าสามารถตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ที่ 40 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อใส่สูตรคำนวนย้อนกลับไปช่วงเวลา 5 ชั่วโมงก่อนหน้าพบว่า ปริมาณแอลกอฮอล์มีมากถึง 122.5 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ก็เป็นเพียงงานวิจัยทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่ในประเทศไทย ตนยังไม่เคยเห็นว่ามีการนำ ผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณย้อนหลังไปใช้ในสำนวนคดีแม้แต่คดีเดียว

related