กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผย จากการเก็บข้อมูลในผู้ป่วยติดเชื้อโควิด อาการหนัก พบว่า โอมิครอน สายพันธุ์ BA.4/BA.5 มีความรุนแรงของโรคมากกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ โดยยืนยันแล้วว่าแพร่เชื้อได้เร็วกว่า และสามารถติดเชื้อซ้ำได้
นายแพทย์ ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุถึงสถานการณ์การเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 ในประเทศไทย พบในช่วง 4 สัปดาห์ผ่านมา โอมิครอน สายพันธุ์ BA.4/BA.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยพบในเขตกรุงเทพมหานครมากที่สุด โดยสูงกว่าในส่วนภูมิภาคที่พบการระบาด ร้อยละ 30 ขณะนี้ทำให้สาย พันธุ์ BA.4/BA.5 เริ่มครองพื้นที่การระบาดเพิ่มขึ้น
ส่วนความรุนแรงของสายพันธุ์ โอมิครอนสายพันธุ์ BA.4/BA.5 ข้อมูลในกทม. ในคนที่ไม่รุนแรง จะพบสัดส่วน BA.4/BA.5 ร้อยละ 72 ส่วนกลุ่มผู้ป่วย ที่รุนแรงที่มีภาวะปอดอักเสบ และใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเสียชีวิต ในจำนวนนี้มี 13 ราย พบ BA.4/BA.5 ร้อยละ 77 ส่วนจำนวนผู้ป่วยอาการรุนแรงในภูมิภาคที่ได้มีการส่งตรวจเข้ามายังส่วนกลาง จำนวน 45 ราย พบมีอาการรุนแรงมากกว่าคนที่ไม่มีอาการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• รู้จัก โควิดโอมิครอน สายพันธุ์ย่อยใหม่ “BA.2.75 และ BA.5.3.1” เริ่มระบาดหนัก
• หมอธีระวัฒน์ เผยแม้ฉีดวัคซีน 6 เข็ม ยังป้องกันโอไมครอน BA .4 - BA.5 ได้ไม่ดีพอ
• หมอธีระ แจงสาเหตุ "โอไมครอน BA.5" แพร่เชื้อไวทั่วโลก อัตราครองเตียง รพ.สูง
ทำให้ภาพรวมของประเทศ สายพันธุ์ BA.4/BA.5 น่าจะมีความรุนแรงมากกว่า สายพันธุ์ก่อนหน้านี้ แต่ความรุนแรงที่มากกว่านั้นอาจจะไม่มากไปกว่าเดิมเท่าไหร่
โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการส่งตรวจสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ประมาณ 500 กว่าตัวอย่าง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 37 ราย พบ BA.2 จำนวน 8 รายและ BA.4 /BA.5 29 ราย และกลุ่มอื่นๆภายในประเทศ 533 ราย พบ BA.2 จำนวน 275 ราย BA.4/BA.5 จำนวน 251 ราย
ขณะที่ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกในส่วนของความรุนแรงของสายพันธุ์ BA.4/BA.5 ยังมีไม่มากพอ แต่ข้อมูลอีกด้านหลายที่ ในหลายประเทศยืนยันตรงกันว่าสายพันธุ BA.4/BA.5 แพร่เร็วกว่า สอดคล้องกับข้อมูลธ ระบาดวิทยาในประเทศอังกฤษว่า สายพันธุ์ BA.4/BA.5 แพร่เร็วกว่า และพบการหลบภูมิได้ดี
ส่วนข้อมูลในประเทศญี่ปุ่น พบว่า หากติดเชื้อ BA.2 แล้วพึ่งหาย สามารถติดเชื้อซ้ำได้อีกสายพันธุในระยะเวลาอันสั้น โดยการฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น ยังคงมีความจำเป็นต่อการแพร่ระบาดในขณะนี้ ซึ่งสัปดาห์หน้า จะมีการนำข้อมูลการตรวจหาภูมิคุ้มกันหลังรับวัคซีนโควิด-19 ในการสู้กับสายพันธุ์ BA.4/BA.5 โดยจะมาชี้แจงรายละเอียดต่อไป