svasdssvasds

กมธ.งบปี 66 เร่งถก "งบคลัง" ธปท. คาด GDP กลับมาฟื้นตัวในระดับก่อนมีโควิด-19

กมธ.งบปี 66 เร่งถก "งบคลัง" ธปท. คาด GDP กลับมาฟื้นตัวในระดับก่อนมีโควิด-19

ธนาคารแห่งประเทศไทย แจง กมธ.งบประมาณ ไทยมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ยังคงเจอภาวะเงินเฟ้อไปอีกระยะ พร้อมเผยไทยต้องเจอปัจจัยเสี่ยงเรื่องต้นทุนการผลิต ค่าครองชีพ และขาดแคลนอาหาร-พลังงานภาคการผลิต

 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 แถลงผลการประชุมว่า เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) คณะกรรมาธิการได้มีการพิจารณาในส่วนของข้อมูลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ งบประมาณรายจ่าย และการตรวจสอบงบการเงินของหน่วยรับงบประมาณในภาพรวม 5 หน่วยงาน คือ กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงบประมาณ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการชี้แจงว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2565 และปี 2566 ซึ่งกลไกหลักที่เป็นปัจจัยของการฟื้นตัวคืออุปสงค์ภายในประเทศและภาคการท่องเที่ยว พร้อมชี้แจงว่าสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ ที่จะทำให้เกิดปัญหาต่อการบริโภคและการลงทุน รวมทั้งปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประเมินว่าการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจน้อยกว่าการระบาดของสายพันธุ์เดลต้าในระลอกก่อนหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ธปท.สั่งห้ามใช้ "สินทรัพย์ดิจิทัล" ทุกประเภท ชำระสินค้า-บริการ ยกเว้นลงทุน

• กอบศักดิ์ เตือนรับมือ มรสุมเศรษฐกิจลูกใหญ่ ( Perfect Storm) หนักสุดรอบ 80 ปี

• รู้คาดการณ์เศรษฐกิจไทย ! เพื่อรับมือปากท้อง ความเป็นอยู่จากนี้ไปต้องทำไง ?

 ทั้งนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการประเมินว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจ หรือ GDP จะสามารถกลับฟื้นตัวอยู่ในระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ได้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ขณะที่อัตราผู้ว่างงานจะมีแนวโน้มลดลงในช่วงต่อจากนี้ และเรื่องของการท่องเที่ยวได้มีการคาดการณ์ว่าทั้งปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนประมาณ 5.6 ล้านคน

 นอกจากนี้ หน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ยังระบุว่า ในอนาคตมี 2 ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อเศรษฐกิจที่ไทยจะต้องเจอ คือ เรื่องของต้นทุนการผลิตและค่าครองชีพในประเทศที่สูงขึ้น และปัญหาการขาดแคลนอาหาร วัตถุดิบและพลังงานในภาคการผลิต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ และยังได้มีการคาดการณ์ว่าภาวะเงินเฟ้อต่อจากนี้อาจจะสูงขึ้น และทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป และจะมีแนวโน้มลดลงในช่วงปี 2566

 ขณะที่คณะกรรมาธิการได้มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องภาวะเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ และสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือปัญหาที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จัดการกับเงินเฟ้อ ที่มีการใข้มาตรการที่รุนแรงในการขึ้นดอกเบี้ย จึงส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และส่งผลต่อการส่งออกของประเทศไทยที่จะเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนประเทศในระยะต่อไป

related