svasdssvasds

ราคาลิเธียมดีดตัวขึ้น 5 เท่าจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้น

ราคาลิเธียมดีดตัวขึ้น 5 เท่าจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้น

ราคาลิเธียมดีดตัวขึ้น 5 เท่า จากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึง โคบอลต์ และ นิกเกิล ที่ใช้สำหรับการผลิตแบตเตอรี่ EV ด้วย

ลิเธียม (Lithium: Li) โลหะหายากที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสมาร์ทโฟน พาวเวอร์แบงค์ และตลาดที่กำลังมาแรงอย่าง รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles: EV) ที่มีความต้องการเพิ่มสูงมากขึ้น ทำให้ราคาของลิเธียมถีบตัวพุ่งสูงเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าตัว นับจากเมื่อปีที่แล้ว ตามรายงานล่าสุดของบริษัทวิจัย Argus Media ของอังกฤษ

และไม่ใช่เพียงแค่ลิเธียมเท่านั้นที่ราคาเพิ่มสูงขึ้น แต่รวมไปถึงโลหะอื่น ๆ อีกด้วย เช่น โคบอลต์ (Cobalt: Co) และ นิกเกิล (Nickel) ที่ใช้สำหรับแบตเตอรี่ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 30-40% ของราคา EV โดยรวม

และจากการที่รัสเซียเดินหน้าบุกยูเครน ทำให้ซัพพลายเชนลิเธียมหยุดชะงัก ประกอบกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาของ EV ที่สูงอยู่แล้ว สูงขึ้นมากจนผู้บริโภคอาจเอื้อมถึงได้ยาก และเป็นการชะลอการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลสู่รถยนต์ไฟฟ้า

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

จากข้อมูลของ Argus ระบุว่า ราคาของลิเธียม ซึ่งปกติจะซื้อขายในสกุลเงินหยวนของจีน เนื่องจากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่จำนวนมากกระจุกตัวอยู่ในจีน ได้ปรับตัวจากประมาณ 89,000 หยวน (459,000 บาท) ต่อตัน ในเดือนเมษายนปีที่แล้ว เป็น 486,000 หยวน (2.47 ล้านบาท) ต่อตัน ราคาโคบอลต์เพิ่มขึ้น 1.8 เท่าและนิกเกิลเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกัน

การเพิ่มขึ้นของราคานิกเกิลเร่งตัวขึ้นหลังจากรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตโลหะรายใหญ่บุกยูเครน ทำให้เกิดความกังวลเรื่องอุปทาน

Tesla ได้ปรับขึ้นราคาสินค้าทั้งหมดในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่สูงขึ้น เช่นเดียวกันกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ที่หันมาผลิต EV มากยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับกระแสโลก Net Zero หรือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน Toyota ระบุเมื่อ ธ.ค. 2021 ว่า ตั้งเป้าหมายที่จะขายรถยนต์ไฟฟ้า 3.5 ล้านคันทั่วโลกในปี 2030 รวมถึง  Honda ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 2 ล้านคันต่อปีภายในปี 2030 ในขณะที่ Nissan ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าให้คิดเป็น 50% ของยอดขายโดยรวมในปีเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังมี Volkswagen AG ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน กล่าวว่า จะสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่หลายแห่งในยุโรป

"หากราคาของโลหะหายากและวัตถุดิบอื่น ๆ ที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็จำเป็นต้องขึ้นราคา EV อย่างน้อย 30% หรือมากกว่านั้น" โทชิฮิเดะ คิโนชิตะ (Toshihide Kinoshita) นักวิเคราะห์อาวุโสของ SMBC Nikko Securities Inc. บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่น กล่าว พร้อมเสริมด้วยว่า "มันอาจกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ EV แพร่หลายช้าลง"

EV ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อขับเคลื่อน ทำให้ดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม รถยนต์เหล่านี้มีราคาแพงกว่ารถยนต์ไฮบริด และสามารถเดินทางในระยะทางสั้น ๆ ได้ด้วยการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นพึ่งพาเงินอุดหนุนจากรัฐบาลอย่างมากในการส่งเสริมการขายรถยนต์ไฟฟ้า

related