"อนุชา" ชี้! "หมอปลา" ทำไม่ถูก เป็นคนจิตใจไม่ปกติ ต้องโดนดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการนำเสนอข่าวดราม่าระหว่าง "หมอปลา" มือปราบสัมภเวสี ที่บุกตรวจสอบ "หลวงปู่แสง" โดยอ้างว่ามีหญิงสาวรายหนึ่งเข้าร้องว่าถูกหลวงปู่ลวนลาม เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว จนเกิดกระแสตีกลับตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนา กล่าวถึงถึงข้อพิพาทระหว่างฆราวาสกับสงฆ์ ว่า "อยู่ระหว่างให้สำนักพุทธดำเนินการในส่วนที่จำเป็น และมีการตั้งคณะกรรมกาขึ้นมานานแล้วตั้งแต่เริ่มต้นที่มีเรื่อง แต่ไม่ได้ออกข่าว"

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

• "หมอปลา" รับ ส่งนักข่าวเข้ากุฏิหลวงปู่แสงจริง แค่ส่งไปเพราะต้องการพิสูจน์

• “สภาทนายความ” จ่อเชือด “ทนาย” เอี่ยวหมอปลาล่อซื้อ “หลวงปู่แสง” หากผิดมรรยาท

• อ.เฉลิมชัย เตือนหมอปลา อย่าห้าวดังได้ก็ร่วงได้ ควรรอบคอบ ที่ผ่านมาทำดีแล้ว

ส่วนข้อกังขาเรื่องความศรัทธาพระสงฆ์นั้น นายอนุชา กล่าวว่า "พระพุทธศาสนา มีมาตั้ง 2500 ปี ศาสนาพุทธไม่ต้องพึ่งคนใดคนหนึ่งมาบริหารจัดการองค์กรพุทธ เรามีพระที่เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าดูแลมาตลอด คงไม่ต้องพึ่งพาบุคคลใด ซึ่งการกระทำดูเหมือนดีแต่ทำให้คนมองผ้าเหลือง มองศาสนาไปอีกแบบ การกระทำเช่นนี้ทำถูกแล้วหรือไม่ ระยะยาวทำไม่ถูกแน่นอน โดยผู้ที่ทำนั้นมีจิตใจไม่ปกติ 

ซึ่งกรณีของ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลาให้เป็นไปตามกฎหมาย อะไรที่นักกฎหมายบอกว่ายอมไม่ได้ เป็นอาญาแผ่นดิน ก็ต้องเป็นเช่นนั้น ซึ่งสำนักพุทธและส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการ"

"ไม่ใช่สำนักพุทธฯ ไม่เข้มแข็งในการที่จะตรวจตรากวดขันพระ ซึ่งทำมาตลอด ซึ่งมีมติของมหาเถรสมาคมให้ดูแลเป็นลำดับชั้น มีความรับผิดชอบ และต้องตั้งบทลงโทษของพระแต่ละลำดับชั้น ยอมรับว่าหลายอย่างเรื่องฝ่ายสงฆ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราทำแล้วจำเป็นต้องบอกหรือ โดยความเชื่อความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนยังคงมีอยู่ในสังคม ส่วนที่ไม่เชื่อหรือไม่ศรัทธาก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่คำสั่งสอนพระพุทธเจ้ามีมาตั้งแต่อดีต ว่าคนอวดอุตริเท่านั้น ดังนั้นมีเรื่องความศรัทธา ความจริงในอดีต ไม่ใช่ว่าเราจะให้บุคคลใดมีมาบริหารจัดการ ตนคิดว่าไม่ถูก"

ส่วนการชี้แจงที่ดูเหมือนล่าช้านั้น นายอนุชา บอกว่า "การชี้แจงต้องเข้าใจว่าปัจจุบันเป็นโลกแห่งการสื่อสารจำนวนมาก ไม่อยากเห็นความแตกแยกอยากเห็นในสังคมมากไปกว่านี้ อย่างตนก็เป็นฆราวาส พูดมากไปจะเท่ากับว่าฆราวาสมาวิเคราะห์วิจารณ์เสียเอง ก็คิดว่าไม่ถูกต้อง ต้องรอให้บางอย่างมันปรากฏในเรื่องความเชื่อความศรัทธา"