ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC)สหรัฐฯ ยกเลิกรายชื่อประเทศแนะนำห้ามเดินทางจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ไทยได้รับอานิสงค์ด้วย แต่ก็ยังถูกจัดในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูง
ตลอดช่วงการแพร่ระบาด นักเดินทางชาวสหรัฐจะใช้ประกาศเรื่องสุขภาพการเดินทางจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ที่ประเมินความเสี่ยงในการเดินทางไปแต่ละประเทศ ซึ่งล่าสุดได้ทำการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำเรื่องการเดินทางดังกล่าวครั้งใหญ่
โดยในช่วง 17 เดือนที่ผ่านมา CDC ใช้การจัดกลุ่มประเทศออกเป็นสี่ระดับสำหรับการระบาดของโควิด-19 ตามอัตราการติดเชื้อ-จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันต่อประชากร 100,000 คน สำหรับประเทศปลายทางที่จะกำหนดไว้ที่ความเสี่ยงระดับ 4 คือ "ความเสี่ยงสูงมาก" จะมาพร้อมกับคำแนะนำ "ห้ามเดินทาง" คือประเทศที่พบผู้ป่วยรายใหม่มากกว่า 500 รายต่อวันต่อ 100,000 คนภายใน 28 วันที่ผ่านมา ซึ่งไทยก็เคยติดอยู่ในกลุ่มนี้ตั้งแต่ 7มีนาคม 2565
เกณฑ์สำหรับระดับ 3, 2 และ 1 ยังอิงตามอัตราการติดเชื้อเช่นกัน โดยปรับระดับจาก "ความเสี่ยงสูง" ที่ระดับ 3 เป็น "ความเสี่ยงปานกลาง" ที่ระดับ 2 เป็น "ความเสี่ยงต่ำ" ที่ระดับ 1 สำหรับแต่ละความเสี่ยง ระดับ CDC แนะนำ: "ให้แน่ใจว่าคุณได้รับการฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่ก่อนการเดินทาง" และ "ผู้เดินทางที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนควรหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น"
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังคงมี 89 ประเทศถูกจัดอยู่ที่ระดับ 4 รวมถึงประเทศไทยและแทบทั้งทวีปยุโรป แต่วันนี้ แผนที่ CDC ดูแตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่มีประเทศใดที่ระดับ 4
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สรุปให้...อัปเดตเปิดประเทศ เมษายน 2565 เที่ยวต่างประเทศไม่ต้องกักตัว
ไขข้อข้องใจ! ประเทศจีนพบผู้ป่วยระบาดต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ
ศบค. ยกเลิกตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าไทยล่วงหน้า 72 ชม. มีผล 1 เม.ย. นี้
โดยการประกาศล่าสุดเมื่อวันจันทร์ ที่18 เมษายน มี 122 ประเทศถูกจัดอยู่ในระดับ 3 ซึ่งยังคงหมายถึง "ความเสี่ยงสูง" สำหรับสถานการณ์โควิด-19 สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโกล้วนอยู่ในระดับนี้ เช่นเดียวกับยุโรปทั้งหมด
ระบบใหม่ของ CDC ในขณะนี้ ยังคงสงวนการประกาศคำแนะนำด้านสุขภาพเกี่ยวการเดินทางระดับ 4 ไว้สำหรับสถานการณ์พิเศษ เช่น เส้นทางของเคสที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือจำนวนเคสที่สูงมาก การเกิดขึ้นของความกังวลรูปแบบใหม่ หรือการล่มสลายของโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพ” ตามคำแถลงของ CDC ระดับ 3, 2 และ 1 จะยังคงถูกกำหนดโดยหลักจากอุบัติการณ์หรือจำนวนผู้ป่วยใน 28 วัน
CDC ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ลดลงเนื่องจาก 74.3% ของชาวอเมริกันอายุ 12 ปีขึ้นไปที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน แล้ว อย่างไรก็ตาม มีชาวอเมริกันน้อยกว่าครึ่งที่ได้รับบูสเตอร์ช็อต
อย่างไรก็ตาม เมื่อโลกเริ่มเปิดกว้างสู่การท่องเที่ยว แผนที่การประเมินความเสี่ยงของ CDC ก็มีผลกระทบน้อยลง หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ระดับโลก รายงานการจองทริปท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่คำนึงถึงระดับคำเตือนของ CDC คำแนะนำของ CDC จึงมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ข้อมูลจาก : www.cdc.gov