หมอธีระ เตือน “โอไมครอน” รุนแรงน้อยกว่า “เดลต้า” แต่แพร่ไว เสี่ยงเสียชีวิต

 ตัวเลขของโควิด-19 ยังพุ่งสูงอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,451,025 คน ตายเพิ่ม 3,864 คน รวมแล้วติดไปรวม 484,860,599 คน เสียชีวิตรวม 6,155,677 คน 
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ 
1.เกาหลีใต้ 
2.เยอรมัน
3. ฝรั่งเศส 
4.อิตาลี 
5.ออสเตรเลีย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• กรมอนามัยแนะ 5 วิธี "ทำงานที่ออฟฟิศอย่างไร" ให้ปลอดภัยจากโควิด-19

• เช็กเลย! โควิดโอไมครอน BA.1 เป็นแล้วติด BA.2 ซ้ำได้หรือไม่ อาการรุนแรงแค่ไหน

• งานวิจัยชี้ โควิดโอไมครอน BA.2 เสี่ยงเด็กมากขึ้น ความรุนแรงอาการ-เสียชีวิต

 เมื่อวานนี้ทวีปเอเชียและยุโรบติด 8 ใน 10 อันดับแรก และ 16 ใน 20 อันดับแรกของโลกเท่ากับจำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 89.01 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 70.08 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 33.73 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 23.44โดยสถานการณ์ระบาดของไทยจำนวนติดเชื้อใหม่  ATK สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชียจำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 12 ของโลก

.

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ว่า แม้ปัจจุบันโอไมครอนจะดูรุนแรงน้อยกว่าเดลต้า เพราะลงปอดน้อยลง อยู่ในทางเดินหายใจส่วนบนมากขึ้น แต่แลกมาด้วยสมรรถนะการแพร่เชื้อติดเชื้อที่เร็วกว่าเดลต้าอย่างมาก จำนวนการติดเชื้อจึงมหาศาลทั่วโลก แม้ความรุนแรงเฉลี่ยจะน้อยลง แต่ก็ยังทำให้จำนวนจริงของการป่วยและการตายก็ยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่ดีในตอนนี้นอกจากนี้แม้จะได้รับวัคซีนไปแล้ว หรือไม่ได้รับ ควรป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ เพราะการฉีดวัคซีนไม่ได้ป้องกันโควิดได้ 100%
 

 คนที่เคยติดเชื้อมาก่อน ก็สามารถติดเชื้อซ้ำได้ หากไม่ป้องกันตัว ความรู้ทางการแพทย์ปัจจุบันนั้นยังไม่สามารถฟันธงว่าติดเชื้อซ้ำแล้วจะอาการน้อยลงเสมอไป เพราะสายพันธุ์ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การติดเชื้อซ้ำอาจไม่ได้แตกต่างจากการติดเชื้อครั้งแรก ยิ่งติดเชื้อซ้ำก็ยิ่งมีโอกาสเกิดภาวะ Long COVID ได้ ดังนั้นการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อจึงเป็นแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม