การตลาดบน Google เป็นช่องทางที่ทรงพลังมาก เพราะทุกคนล้วนเข้าไปค้นหาเมื่อต้องการสินค้าหรือบริการอะไรก็ตาม แม้กระทั่งเรารู้แล้วว่าต้องการสินค้าอะไร แต่ก็ยังเข้าไปค้นหาชื่อแบรนด์เพื่อเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือการรีวิว
การตลาดบน Google เป็นช่องทางที่ทรงพลังมาก เพราะทุกคนล้วนเข้าไปค้นหาเมื่อต้องการสินค้าหรือบริการอะไรก็ตาม แม้กระทั่งเรารู้แล้วว่าต้องการสินค้าอะไร แต่ก็ยังเข้าไปค้นหาชื่อแบรนด์เพื่อเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมรวมถึงรีวิว ส่งผลให้ธุรกิจไหนที่ลูกค้าค้นหาแล้วเจอย่อมมีโอกาสสร้างยอดขายได้มากกว่าแน่นอน
การตลาดบน Google มีอะไรบ้าง
การตลาดบน Google แบ่งเป็นแบบเสียเงินค่าโฆษณากับแบบไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณา โดยแบบที่เสียเงินค่าโฆษณาคือการติดหน้า Google ด้วยการลงโฆษณา Google Ads ผู้ลงโฆษณาก็จะต้องเสียค่าโฆษณาทุกครั้งที่มีคนคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์
ส่วนแบบที่ไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณาเรียกว่า SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นการใช้เทคนิคต่างๆ ที่ทำให้เว็บไซต์ขึ้นไปติดหน้า Google เอง ซึ่งทางเว็บไซต์ไม่ต้องเสียค่าโฆษณาให้ Google ตามจำนวนคลิกเหมือน Google Ads
ซึ่ง 2 รูปแบบนี้มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกัน เพราะบางกลยุทธ์การตลาดก็อาจจะเหมาะกับ Google Ads ในขณะที่บางกลยุทธ์ก็อาจจะเหมาะกับ SEO ดังนั้นเจ้าของธุรกิจควรลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือเอเจนซี่ที่ให้บริการด้านนี้ เช่น Pacy Media
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• Google เตรียมยกระดับความเป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ Android
• Google รายงานยอดขายโต 33% หุ้น Alphabet พุ่งขึ้น 8%
• ทำธุรกิจบนออนไลน์ยุคใหม่ นวัตกรรมต้องมี แต่...ต้องเป็นนวัตกรรมที่แตกต่าง
การทำ Google Ads
โฆษณา Google Ads หลายคนรู้จักในชื่อ SEM เป็นการลงโฆษณาผ่านระบบ Google Ads ซึ่งสามารถเลือก Keyword ได้เลยว่าต้องการให้เว็บไซต์แสดงผลใน Keyword อะไรบ้าง ต้องการให้เชื่อมต่อไปที่หน้าไหนของเว็บไซต์ และยังสามารถกำหนดพื้นที่แสดงผล จังหวัด และช่วงเวลาได้ด้วย
การทำ Google Ads จำเป็นต้องเติมงบโฆษณาเข้าไปในระบบ เช่น อาจจะกำหนดไว้ที่วันละ 500 บาท เมื่อมีการคลิกเกิดขึ้นจนงบโฆษณาหมด โฆษณาก็จะหยุดแสดงผล
การทำ SEO
สำหรับการทำ SEO จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลพอสมควร โดยข้อมูลคร่าวๆ ในการทำ SEO ที่ได้มาจากเอเจนซี่ Pacy Media มี 3 ส่วนที่สำคัญคือ
Technical SEO เช่น โครงสร้างเว็บไซต์ ความเร็ว ความปลอดภัย UX UI และการ Index
On-Page Optimization เช่น การปรับคอนเทนต์ ปับความเร็วในการโหลด คุณภาพของคอนเทนต์ Keyword รูปภาพ และ Tag ต่างๆ ในหน้า
Off-Page Optimization เช่น Social Signal การทำ Link Building และ Online Reputation
ทั้งนี้การทำ SEO ให้ยั่งยืนคือการทำให้ถูกต้องตามหลักของ Google เพราะหากใช้วิธีที่ขัดกับนโยบาย หรือใช้วิธีการสแปม หรือใช้หุ่นยนต์ทำ ก็อาจส่งผลเสียให้กับเว็บไซต์ เช่น การโดนแบนโดย Google เป็นต้น
ในส่วนของ Backlink ทางเอเจนซี่ชี้แจงว่า Backlink คืออีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับ SEO แต่ไม่ใช่จะทำลิงก์อะไรก็ได้ เพราะต้องคำนึงถึงคุณภาพและรูปแบบของ Backlink ด้วย เพราะหากเป็น Backlink ที่ไม่มีคุณภาพ ถึงจะทำเยอะ ก็อาจไม่ส่งผลต่ออันดับ SEO เท่าที่ควร
การทำโฆษณาแบบค้นหาช่วยคุณประหยัดงบโฆษณาได้ เนื่องจากคนที่ค้นหาล้วนมีความต้องการแล้ว โอกาสในการปิดการขายจึงมีมากกว่า ทั้งนี้ อาจต้องทำการตลาดออนไลน์รูปแบบอื่นควบคู่ไปด้วยเพื่อกระตุ้นการปิดการขายให้รวดเร็วขึ้น