ยุคนี้ใครๆก็ทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ แต่หลายแบรนด์มักตกม้าตายเพราะภาพลักษณ์เสีย ถูกลูกค้า คู่แข่ง โจมตีในออนไลน์ จะดีไม่น้อยถ้ามีการบริการจัดการภาวะวิกฤตที่ดี จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ ทำให้แบรนด์ของเรายั่งยืน
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยว่าในยุคดิจิทัลเกือบทุกแบรนด์สินค้า หรือเกือบจะทุกธุรกิจทำการตลาดบนออนไลน์ ใช้ช่องทางออนไลน์ในการค้าขาย รวมถึงใช้ช่องทางออนไลน์ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า หรือผู้ที่สนใจ หรือใช้ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งก็มีหลายแบรนด์ทำแล้วก็ประสบผลสำเร็จอย่างมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
การจัดการภาวะวิกฤตที่ดีใครว่าไม่สำคัญกับแบรนด์
จะเห็นได้ว่าในออนไลน์มีประโยชน์อย่างมากในการทำธุรกิจ แต่…เหรียญมักมีสองด้านเสมอ การทำธุรกิจบนออนไลน์ก็มีด้านลบให้ผู้ประกอบการได้แก้ไขปัญหาอยู่เหมือนกัน เพราะมักจะมีคู่แข่ง หรือลูกค้าที่ไม่ชอบแบรนด์เรื่องมาปั่นกระแสให้สินค้าเราเสียๆหายๆ รวมถึงบางครั้งตัวแบรนด์เองก็ทำให้ตัวเองมีข่าวด้านลบเกิดขึ้นกลายเป็นดราม่าบนออนไลน์ ดังนั้นการบริการจัดการภาวะวิกฤตที่ดี ย่อมเป็นประโยชน์ต่อแบรนด์
โดยการจัดการภาวะวิกฤต คืออะไร สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย ให้นิยามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่เป็นปกติทั่วไป และสถานการณ์วิกฤตจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าองค์กรจะมีความพร้อมในการรับมือและจัดการกับวิกฤติให้ผ่านพ้นไปได้อย่างไรโดยไม่เกิดความวุ่นวายหรือเกิดผลเสียหายต่อองค์กร ทั้งนี้ก็มีคำแนะนำในการจัดการกับภาวะวิกฤต ว่าจะต้องเตรียมแผนฉุกเฉินไว้ล่วงหน้า ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง มีการประกาศอย่างทันทีและชัดเจน เมื่อจะต้องดำเนินการตัดสินใจ ไม่เพียงแค่พิจารณาแต่การสูญเสียในระยะสั้น แต่มุ่งเน้นไปยังผลกระทบในระยะยาวด้วย
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการจัดการภาวะวิกฤต เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการทำธุรกิจบนออนไลน์ จึงทำให้หลายแบรนด์เริ่มหันมาสนใจในเรื่องของการจัดการภาวะวิกฤตที่ดี และถูกต้อง เพื่อให้แบรนด์ของเราเสียหายน้อยที่สุด ซึ่งหากยังขาดประสบการณ์ก็สามารถช่วยบริการปรึกษาบริษัทที่รับให้บริการปรึกษาว่าการจัดการภาวะวิกฤต อย่างเช่น THAICONNEXION ที่ได้ชูความเป็นผู้นำ Social Issue & Crisis Management Experts แก้วิกฤตแบรนด์บนโลกออนไลน์ หนุนการใช้โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์
ภาคธุรกิจที่ขายของออนไลน์ควรตั้งการ์ดรับมือวิกฤตที่อาจเกิดขึ้น
โดย นายสุเมธ ครองเพียรเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยคอนเน็กชั่น จำกัด (THAICONNEXION) เปิดเผยว่า แม้ช่องทางการทำตลาดผ่านโซเชียลมีเดียจะยังขยายตัวได้ดี และเป็นช่องทางหลักที่ธุรกิจ ใช้ในการสื่อสารภาพลักษณ์ และทำการตลาดในยุคปัจจุบัน แต่ก็ถือเป็นความท้าทายต่อแบรนด์อย่างมากในการบริหารจัดการ ทั้งในด้านการแก้ปัญหาข้อมูลเชิงลบ การแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ และการโจมตีจากผู้ใช้งานทางโซเชียลมีเดีย
ทั้งนี้มีข้อมูลจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึง 30 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมามีจำนวนผู้โพสต์ข่าวปลอมถึง 587,039 คน และมีจำนวนผู้แชร์ข่าวปลอมถึง 20,294,635 คน ซึ่งกรณีนี้หากเป็นข่าวสารที่เกิดขึ้นกับธุรกิจ ก็อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์และองค์กร ลุกลามบานปลายไปจนถึงยอดขายและผลประกอบการอย่างคาดไม่ถึง
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผู้ประกอบการหลายแบรนด์กำลังหาวิธีการจัดการภาวะวิกฤตที่ดีเพื่อรองรับในยุคออนไลน์ที่อาจเสี่ยงต้องการเจอภาวะวิกฤตได้ทุกเมื่อ ไทยคอนเน็กชั่น จำกัด ในฐานะของ Social Issue & Crisis Management Experts ดิจิทัลเอเจนซี่ที่บริการให้คำปรึกษาและบริหารจัดการรับมือภาวะวิกฤตของแบรนด์ Social Issue & Crisis Management เห็นว่า การบริหารจัดการสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดของแบรนด์ ที่เกิดขึ้นบนออนไลน์อย่างทันท่วงทีจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจรอดพ้นจากภาวะวิกฤตได้ โดยบริษัทฯ มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานควบคู่กับผู้ให้บริการ Social Listening Tools หลากหลายบริษัทซึ่งจะมอนิเตอร์รับฟังเสียงของผู้บริโภคที่กล่าวถึงแบรนด์และองค์กร ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย อาทิ Facebook, Twitter, Instagram, Youtube รวมถึง Online Community และเว็บบอร์ดต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง
รับมือได้ดีมีผลต่อภาพลักษณ์แบรนด์
อีกทั้งยังพร้อมรายงานผลแบบ Real-Time เพื่อให้สามารถรับมือ และแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ หากพบเห็นสัญญาณที่อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ในทางลบต่อแบรนด์ก็จะเตรียมป้องกัน และเตรียมแผนรับมือกับภาวะวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา ไปจนถึงขั้นตอนการแก้ปัญหาและการหาแนวทางฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ และองค์กรหลังภาวะวิกฤต โดยตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีลูกค้าที่เป็นองค์กรธุรกิจชั้นนำกว่า 20 บริษัท และช่วยแก้ไขปัญหา Social Crisis บนโลกออนไลน์ให้กับลูกค้ามาแล้วมากกว่า 500 เคส
ทั้งนี้บริษัทจะยังคงสานต่อความเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการด้านจัดการภาวะวิกฤตบนโลกออนไลน์ Social Issue & Crisis Management Experts โดยจะขยายฐานการให้บริการแบรนด์และองค์กรต่างๆ ไปในทุกอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามการมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาบริหารจัดการวิกฤตบนโลกออนไลน์ เปรียบเหมือนการซื้อประกันความเสี่ยง เพื่อรักษาชื่อเสียง รวมถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ และองค์กร ซึ่งในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ทีมงานจะช่วยแก้ไข หรือบรรเทาความรุนแรงให้เบาบางลง รวมทั้งสร้างความเข้าใจอันดีต่อสังคมให้เกิดขึ้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกิจบนออนไลน์ในยุคดิจิทัลการรับมือ การจัดการภาวะวิกฤตที่ดี เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์