Dead sea ทะเลสาบมรณะ : ภาวะวิกฤตที่บ่งบอกว่าโลกกำลังเปลี่ยนไป

• เดดซี (Dead sea) อยู่ที่ไหน

ทะเลสาบเดดซี หรือ ทะเลสาบมรณะ อยู่ตรงเขตแดนของประเทศจอร์แดน,อิสราเอลและรัฐปาเลสไตน์  มีลักษณะภูมิประเทศเป็นแอ่งน้ำ ท่ามกลางทะเลทราย ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นจุดที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดในโลก เพราะอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 420 เมตร หรือหากมองให้เห็นภาพคือต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปกติ มากกว่าตึกใบหยกที่มีความสูง 304 เมตรอีกด้วย

ทั้งที่ ทะเลสาบเดดซี  มีความยาว 76 กิโลเมตร และมีความกว้างถึง 18 กิโลเมตร มีพื้นที่ 1,020 ตารางกิโลเมตร และในอนาคตมีแนวโน้มที่ขนาดจะลดลงไปเรื่อยๆ

    ทะเลสาบเดดซี...หากมองเป็นในสถานะสถานที่ท่องเที่ยว ต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่งดงามติดอันดับโลก และ มีจุดเด่น คือทุกคนสามารถลอยน้ำได้โดยไม่ต้องใส่เสื้อชูชีพ หรือไม่จำเป็นต้องว่ายน้ำเป็น เพราะทะเลสาบเดดซีมีความหนาแน่นและความเข้มข้นของเกลือสูง เนื่องด้วยมีความเค็มที่สูงมาก เค็มกว่าทะเลทั่วไปถึง 8-9 เท่า ดังนั้นทะเลเดดซีนี้จึงไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เลย ...ยกเว้นแบคทีเรียและเห็ดราบางชนิดเท่านั้น

•วิกฤตทะเลสาบเดดซี

ทะเลสาบเดดซี (Dead sea) กำลังเจอกับปัญหาเรื่องระดับน้ำในทะเลลดลง ด้วยอัตราที่รวดเร็วมาหลายแล้ว ซึ่งในช่วงหลังระดับน้ำทะเลเดดซีจะลดลงประมาณปีละ 1-1.5 เมตรเลยทีเดียว และหากตัวเลขยังเป็นอย่างนี้ต่อไป มีการคาดการณ์ว่าพื้นที่ของทะเลสาบเดดซีจะหายไปเรื่อยๆ

ทั้งนี้ ปัญหาของทะเลสาบเดดซี เกิดจาก ประชากรในจอร์แดน มีความต้องการใช้น้ำมากขึ้น ซึ่งน้ำทะเลสาบแห่งนี้รับน้ำจากแหล่งเดียวนั่นก็คือแม่น้ำจอร์แดน และแม่น้ำจอร์แดนก็ผันน้ำมาให้ทะเลสาบเดดซีแค่ 5 % เท่านั้น และเนื่องจากบริเวณนั้นมีภูมิภาคเป็นทะเลทราย ทำให้ทะเลสาบเดดซี รับน้ำฝนเพียงแค่ 65 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งถือว่าน้อยมาก

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ปริมาณน้ำทะเลสาบเดดซี หายไป ก็เพราะการทำอุตสาหกรรมเกี่ยวกับแร่โพแตส ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลิตปุ๋ย แล้วแร่โพแตส ก็เป็นหนึ่งในการผลิตเครื่องสำอางด้วย

และในเมื่อระดับน้ำในทะเลสาบเดดซีที่ลดลง ทำให้น้ำจืดใต้ดินรอบทะเลสาบเดดซีไหลลงทะเลสาบ และละลายเกลือใต้ดินไหลลงทะเลด้วย เมื่อเกลือใต้ดินละลายก็ทำให้เกิดหลุมยุบรอบทะเลสาบเดดซี สร้างความเสียหายต่อรีสอร์ต ธุรกิจท่องเที่ยว และอันตรายต่อชีวิตประชาชนในจอร์แดนเป็นอย่างมาก

•สะท้อนปัญหาขาดแคลนน้ำ

เรื่องที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดตอนนี้ของ ทะเลสาบเดดซี (Dead sea) ก็คือมีผู้เชี่ยวชาญได้บอกว่าตอนนี้น้ำในแม่น้ำจอร์แดนลดลงเป็นอย่างมาก นี่จึงเป็นสาเหตุให้ในตอนนี้ จอร์แดนและอิสราเอลที่อยู่ติดกับทะเลสาบเดดซีขาดแคลนน้ำเข้าขั้นรุนแรง

ประชากรในจอร์แดนมีการปรับตัวกันมากในช่วงที่ผ่านมา นอกจากจะใช้การผันน้ำมาใช้แล้วยังต้องขุดเจาะน้ำบาลดาลที่อุ้มหินจากชั้นใต้ดินมาใช้ด้วย คิดเป็น 60 เปอร์เซนของน้ำที่ใช้ทั้งหมดและน้ำในชั้นหินเหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะหมดไป....

แต่นี่อาจจะไม่ใช่แค่จอร์แดนเพียงอย่างเดียว มีรายงานจากสถาบันทรัพยากรน้ำระหว่างประเทศ หรือ WRI ก็รายงานว่าหลายประเทศทั่วโลกก็อยู่ในระดับเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำขั้นรุนแรงในอนาคตเหมือนกัน

•ไม่มีน้ำ ไม่มีชีวิต

หลายพื้นที่ในตะวันออกกลางกำลังจะกลายเป็นที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยภายในปี 2050 เพราะว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จอร์แดนเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นมากที่สุด และคาดว่าจะสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลง ทะเลสาบเดดซีกำลังลดระดับลง และบ้านเรือนจำนวนมากได้รับน้ำเพียงแค่ 24 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

สถาบันทรัพยากรน้ำระหว่างประเทศ หรือ WRI รายงานอีกว่า มีกลุ่มประเทศที่อยู่ในข่ายเสี่ยงขาดแคลนน้ำสูงสุดมีถึง 17 ประเทศ โดย 5 อันดับแรก คือ กาตาร์,อิสราเอล,เลบานอน,อิหร่าน และ จอร์แดน  , ขณะที่ประเทศไทย อยู่ในภาวะเข้าข่ายเสี่ยงขาดแคลนน้ำปานกลาง-สูง และถือเป็นลำดับที่ 45 ของโลก  แต่เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน...

• ขาดแคลนน้ำแล้วกระทบอะไร?

หากโลกถึงภาวะวิกฤตขาดแคลนน้ำ ที่สะท้อนมาจากประเด็นวิกฤตทะเลสาบเดดซี  มันอาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตโดยรวมในอนาคต เพราะสิ่งที่จะเกิดตามมา ก็คือ

1. ขาดแคลนน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภค

2. ขาดแคลนผลผลิตทางการเกษตรและปศุสัตว์

3. เกิดโรคภัยไข้เจ็บและโรคติดต่อ

4. การอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์และสัตว์

5. ส่งผลต่ออุตสาหกรรมขนาดใหญ่

    ...จะเห็นได้ว่า วิกฤตทะเลสาบเดดซี สะท้อนให้เห็นปัญหาในภาพใหญ่ของโลก นั่นคือการขาดแคลนน้ำ และน้ำเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงตัวเราและสิ่งแวดล้อม ถ้าเกิดขาดแคลนน้ำไป ...คงจะไม่มีสิ่งมีชีวิตบนโลกที่จะสามารถอยู่ได้อีกแล้ว เพราะน้ำคือสิ่งสำคัญที่สุดในการดำรงชีวิต..

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

•  สวยยืนหนึ่ง!ซากุระบานญี่ปุ่นเร็วที่สุดรอบ 1,200 ปี ผลกระทบจากโลกร้อน