5 นักกีฬาระดับโลก เลิกอาชีพเร็ว และ หันหลังให้กับวงการ ก่อนวัยอันควร

• แอชลี่ย์ บาร์ตี้ เลิกเล่นเทนนิส ทั้งที่ครองมือ 1 โลก

เหตุการณ์ช็อกวงการกีฬาสดๆร้อนๆ เมื่อ แอชลี่ย์ บาร์ตี้ Ashleigh Barty นักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน ประกาศ แขวนแร็กเกต อำลาวงการเทนนิสแล้ว ทั้งที่ปัจจุบัน เธอกำลังอยู่ในช่วงที่ดีในเส้นทางนักกีฬาอาชีพ เพราะเธอเป็นมือ 1 ของโลกอยู่ และความสำเร็จต่างๆกำลังเฝ้ารอเธออยู่ แต่สุดท้ายเธอเลือกที่จะเดินหันหลังให้ เพราะภาวะ "หมดไฟ" 

และ ปัจจุบัน เธอกำลังอยู่ในกราฟขาขึ้นของชีวิต เธอคือหนึ่งในนักเทนนิสชาวออสเตรเลียที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด กับการคว้าแชมป์แกรนด์สแลม 3 รายการ - เฟรนช์ โอเพ่น 2019, วิมเบิลดัน 2021 และ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2022 ด้วยวัย 25 ปีเท่านั้น แถมเธอยัง ครองตำแหน่งมือ 1 ของโลก ติดต่อกันยาวนาน ถึง 114 สัปดาห์ , และ แอชลี่ย์ บาร์ตี้  สะสมเงินรางวัลจากการแข่งไปทั้งสิ้น $23,829,070 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นนักกีฬาเทนนิสหญิงที่สะสมเงินได้สูงสุดเป็นอันดับ 14 ตลอดกาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• แอชลี่ย์ บาร์ตี้ นักเทนนิส มือ 1 โลก ประกาศเลิกเล่น ในวัย 25 ปี เพราะหมดไฟแล้ว

• WFH Burnout หมดไฟ กายพัง เบื่อบ้าน สัญญาณอันตราย ต้องรีบแก้!

มาร์ติน่า ฮินกิส สาวน้อยมหัศจรรย์ที่อำลาวงการ 3 ครั้ง 
.
มาร์ติน่า ฮินกิส ตำนานนักเทนนิสหญิงชาวสวิส อดีตมือ 1 ของโลก  ถือเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เคยประกาศอำลาวงการเร็วเกินคาด เพราะย้อนกลับไปในปี 2003 มาร์ติน่า ฮินกิส เลือกแขวนแร็กเก็ตด้วยวัยเพียง 22 ปี ทั้งที่เธอตอนนั้นมีอายุ 22 ปี โดยสิ่งที่รุมเร้าเธอก็คือเรื่องสภาพจิตใจ รวมถึงปัญหาอาการบาดเจ็บที่เรื้อรังมานาน ซึ่ง ณ เวลานั้นเธอเป็นแชมป์แกรนด์สแลมมาแล้ว 5 รายการด้วยซ้ำ
.
อย่างไรก็ตาม มาร์ติน่า ฮินกิส เธอก็พยายามกลับมาสู่วงการเรื่อยๆ และก็เจอปัญหาอยู่ทุกครั้งเสมอๆไป ซึ่งเธอมีการหวนคืนวงการเทนนิสถึง 3 ครั้ง  แต่ความสุดยอดของเธอ ผู้คนทั้งโลกจดจำเธอ ในช่วงเวลาวัยรุ่นก่อนอายุ 22 ปี ซึ่งเธอประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

• เอริค คันโตน่า จากหันหลังให้อาชีพ ปล่อยให้แฟนผีคิดถึงไปตลอดกาล

“ก็องโต้” เอริค คันโตน่า คือนักฟุตบอลที่กำลังอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดในชีวิตแต่เลือก หันหลังให้วงการแบบสุดช็อก โดยฮีโร่คอปกตั้งของแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกกับผีแดง 4 สมัย ก่อนประกาศหันหลังให้กับสังเวียนแข้งเมื่อปี 1997 ในขณะที่อายุเพียง 30 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำลัง หุงขึ้นหม้อที่สุดในเส้นทางอาชีพแล้ว โดยเขาให้เหตุผลว่า “หมดไฟ” กับเกมลูกหนัง

"ผมไม่รู้สึกถึงแพสชันกับการแข่งขันอีกแล้ว และถ้าคุณสูญเสียแพสชันไปเพียงนิดเดียว นั่นหมายความว่าคุณไม่มีทางลงเล่นในฟุตบอลระดับสูงได้อีกต่อไป” เอริค คันโตน่า อดีตนักเตะแมนฯยูไนเต็ดเคยกล่าวไว้ และทุกวันนี้ เอริค คันโตน่า ก็ยังอยู่ในใจแฟนบอลผีแดงเรื่อยมา

 

• อังเดร เชือร์เล่ แชมป์โลกเยอรมนีที่เลิกเล่นบนวัย 29 ปี

อังเดร เชือร์เล่ เป็นนักเตะเยอรมนีในชุดแชมป์บอลโลก 2014 เขาไม่ได้มีอาการบาดเจ็บหนัก และสามารถเดินในเส้นทางลูกหนังได้อีกหลายปี เพราะอายุยังไม่ขึ้นเลข 3 นำหน้าเลยด้วยซ้ำ แถมฝีเท้าและประสบการณ์ก็เหลือเฟือ โดยเคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีกกับเชลซีมาแล้ว แต่สุดท้าย เขาเลือกแขวนสต๊ดในปี 2020 ด้วยวัย 29 ปีเท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม เหตุผลของอดีตดาวยิงทีมอินทรีเหล็กถือเป็นเรื่องที่ “เข้าใจได้” เพราะในเมื่อไม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำ หากฝืนไปก็ดูจะมีแต่ผลเสียต่อทุกฝ่าย ไม่ว่าจะกับตัวเองหรือสโมสรต้นสังกัด 
 

 

 

 

 

View this post on Instagram

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

A post shared by Andre Schürrle (@andreschuerrle)

• ไมเคิล จอร์แดน ผู้เป็นเบอร์หนึ่งของ NBA 

หากใครเป็นแฟนบาสเกตบอล NBA มาตั้งแต่ยุค 1980's-1990's น่าจะจำได้เป็นอย่างดีว่า ครั้งหนึ่ง จอร์แดน เคยประกาศรีไทร์ชนิดช็อกโลกมาแล้ว หลังจากพาทีม ชิคาโก บูลส์ คว้าแชมป์ NBA ได้ 3 สมัยซ้อนในช่วงปี 1991-1993 ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองกำลังอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพ ด้วยวัยเพียง 30 ปี  โดยครั้งนั้น ไมเคิล จอร์แดน เลือกที่จะหันหลังให้วงการ เพราะว่าเขาหมดแรงจูงใจในการเล่น และคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรต้องพิสูจน์แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในความจริงแล้ว ในช่วงชีวิตของไมเคิล จอร์แดน กำลังเจอเรื่องที่หนักหนาสาหัส เพราะ เจมส์ จอร์แดน ซีเนียร์ พ่อบังเกิดเกล้า ผู้เป็นบุคลลสำคัญที่สุดในชีวิตของ ไมเคิล จอร์แดน เพิ่งเสียชีวิตไปจากเหตุการณ์ลอบสังหารด้วยอาวุธปืน ในช่วงเวลานั้น...แต่ถึงกระนั้น ไมเคิล จอร์แดน ก็หวนคืนสู่วงการบาสเก็ตบอลอีกครั้ง ภายในเวลา  2 ฤดูกาลและยังนำพาความสำเร็จมาสู่แฟนบาสชิคาโก้ บูลส์อยู่เสมอๆ
.
• หมดไฟในชีวิต แล้วจะแก้ยังไง 
.
สำหรับทั้งหมดนี้ นี่คือตัวอย่างของนักกีฬาดังระดับโลก ที่เจอกับภาวะปัญหา "หมดไฟ" ในเส้นทางอาชีพ และเลือกที่จะหันหลังในวงการด้วยเวลาอันรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกหมดไฟ เครียดง่าย หรือ คิดงานไม่ค่อยออก ไม่อยากทำงาน เบื่อบ้าน แยกเวลางานกับเรื่องส่วนตัวไม่ได้ อาจกำลังเป็น  Burnout หรือ Cabin Fever สามารถเป็นภาวะที่เกิดกับทุกคนได้ และเป็นสิ่งต้องรีบแก้ โดยมีวิธีการง่ายๆ อาทิ  แบ่งเวลาในชีวิตให้ชัดเจน,  ทำ To do list ในชีวิต , ออกกำลังกาย , ทานอาหารตรงเวลา , หากิจกรรมผ่อนคลาย และ ระบายกับเพื่อน เป็นต้น