svasdssvasds

ศบค. ปรับมาตรการ Test & Go วันแรกตรวจ RT-PCR วันที่ 5 ตรวจ ATK เพื่อลดค่าใช้จ่าย

ศบค. ปรับมาตรการ Test & Go วันแรกตรวจ RT-PCR วันที่ 5 ตรวจ ATK เพื่อลดค่าใช้จ่าย

ศบค. ให้ผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ตรวจ RT-PCR และพักโรงแรม SHA plus วันแรกวันเดียว ส่วนวันที่ 5 ตรวจ ATK เพื่อลดค่าใช้จ่าย มาตรการการเปิดเรียนออนไซด์ หากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสถานที่สอบ ไม่จำเป็นจะต้องงดการสอบ ให้สามารถไปสอบได้ หากไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย

 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ถึงการปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร (Test & Go) ว่า ศปก.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีการเสนอเข้ามา จากเดิมที่ต้องตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง ในวันแรก และวันที่ 5 ให้ปรับเป็น RT-PCR วันแรก ส่วนวันที่ 5 ตรวจ atk แทน 

 ทั้งนี้ กทม. ชลบุรี และภูเก็ต ได้ประโยชน์จากที่มีคนเข้ามาหลักหลายแสนคน ซึ่งกำลังเร่งอนุมัติกันอยู่คืบหน้าแล้ว 80% โดยรัสเซียมาเป็นอันดับ ที่ 1 ตามด้วยเยอรมนี และฝรั่งเศส 

 สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าราชอาณาจักรทางอากาศ จากเดิมจะให้อยู่โรงแรม SHA plus 2 ช่วง ให้เปลี่ยนเป็น วันแรกที่มาถึงและตรวจ RT-PCR วันเดียว ส่วนวันที่ 5 ตรวจ atk ปกติ เพื่อลดค่าใช้จ่ายลง แต่ต้องติดตั้งระบบหมอชนะ และส่งผล ATK ด้วย

ส่วนการเข้ามาทางบก จะเปิดที่หนองคาย อุดรธานี และด่านสะเดา จ.สงขลา ทั้งนี้ มีข้อกังวลว่าหากใครเข้ามาวันเดียว จะต้องใช้ค่าเบี้ยประกันภัยสูง ทาง เลขาฯ สมช. จึงรับไปพิจารณาต่อ

สำหรับวงเงินประกันสุขภาพจากเดิม 50,000 เหรียญสหรัฐ มีข้อคอมเพลนว่าแพงเกินไป ที่ประชุม ศบค. จึงมีมติปรับวงเงินประกันลงมาไม่น้อยกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐ

ศบค. ปรับมาตรการ Test & Go วันแรกตรวจ RT-PCR วันที่ 5 ตรวจ ATK เพื่อลดค่าใช้จ่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• โทร 1330 ไม่ติด! ติดโควิดทำยังไง เช็กช่องทางติดต่อเข้าระบบดูแลรักษาที่บ้าน

• พุ่งไม่หยุด! โควิดวันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 21,232 ราย เสียชีวิต 39 ราย

• ครม.ไฟเขียว! ผู้ป่วยโควิด-19 ใช้ยกเลิกปรับสิทธิ UCEP รักษาฟรีต่อไม่มีกำหนด

โฆษก ศบค. ยังบอกด้วยว่า นายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค. ได้โทรศัพท์ไปขอบคุณคอลเซ็นเตอร์ที่ทำงานอย่างหนัก และให้กำลังใจ รวมถึงทีมงานภาคประชาสังคมที่ช่วยทีมงานภาครัฐ ในการดูแลผู้ป่วยที่อยู่ตามบ้าน เพราะบ้านของบางคนไม่เหมาะเป็นที่กักตัว พร้อมขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ โดยนายกฯ รับรู้ทุกเรื่อง และให้ติดตามผู้ติดเชื้อตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งหายป่วย เพื่อให้ทุกคนพึงพอใจ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ในช่วงที่มีคนไข้จำนวนมากก็อาจต้องเรียงลำดับความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องสายด่วน เพราะรู้ว่าความทุกข์ร้อนของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ

สำหรับสถานประกอบการที่เปิดให้บริการและมีการติดเชื้อ นายกฯ ฝากให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล ควบคุม และติดตาม โดยกิจการเปิดได้ ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ภาครัฐก็ต้องเข้าไปดูแลให้สมดุลกัน เพื่อให้ดำเนินกิจการได้ต่อไป

 ทั้งนี้โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ถึงมาตรการเปิดเรียนแบบออนไซด์ในสถานศึกษา ว่า มีการรายงานว่าข้อมูลเด็กติดเชื้อไม่เยอะเพียง 21-22% เท่านั้น และมีการเตรียมมาตรการสำหรับการเปิดภาคเรียนและการป้องกันในสถานศึกษา

 รวมถึงแผนเผชิญเหตุ ซึ่งผลการเปิดภาคเรียนที่ 2 โดยปลัดกระทรวงศึกษาธิการแจ้งว่า จากตัวอย่าง 122 โรงเรียน ในโรงเรียนที่มีการติดเชื้อยืนยัน 1 รายขึ้นไป พบว่ามีโรงเรียนที่ปิดสถานศึกษา 28.7% ส่วนหากมีการติดเชื้อยืนยันมากกว่า 1 ห้องเรียน พบว่าโรงเรียนปิดสถานศึกษา 55.7% แต่ที่น่าสนใจโรงเรียนที่ไม่ได้ติด แต่สถานศึกษาใกล้เคียงกันมีการติดเชื้อปรากฏว่า 9% ปิดไปด้วย

 

 ทั้งนี้ สถานการณ์กับสิ่งที่เผชิญเหตุไม่สอดคล้องกัน จึงเป็นภาพสะท้อนที่อาจจะได้รับแรงกดดันจากผู้ปกครอง หรือครูที่ทำให้มาตรการที่อยากจะให้เปิดเรียนตามมาตรการดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามแผนเผชิญเหตุของสถานศึกษา 

 โดยที่ประชุม ศบค. เห็นชอบมาตรการการเปิดเรียนออนไซด์ สำหรับโรงเรียนประจำและโรงเรียนไป-กลับ ประกอบด้วย นักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำเรียนออนไซด์ได้ตามปกติ จะพยายามให้เปิดโรงเรียน แต่ให้สังเกตอาการ

 กรณีนักเรียน ครู หรือบุคลากรเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้จัดพื้นที่การเรียนการสอน ปฏิบัติงานทำกิจกรรมใน Quarantion Zone และแยกกักตัวเป็นเวลา 7 วัน และให้สังเกตอาการอีก 3 วัน 

 ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสถานที่สอบ ไม่จำเป็นจะต้องงดการสอบ ให้สามารถไปสอบได้ หากไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้เข้าสอบได้ แต่ให้จัดสถานที่สอบในลักษณะที่โล่งและอากาศถ่ายเท เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 2 เมตร และให้เดินทางไปสนามสอบโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือประสานหน่วยสถานที่สอบกรณีไม่มีรถยนต์ส่วนตัว

related