ศบค. เผยคุมโควิดได้ แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อแตะหลักหมื่น ชี้ “โอไมครอน” แพร่กระจายในครอบครัวง่ายกว่าเดลตา 40-50% พบ กทม. คลัสเตอร์สถานดูแลผู้สูงอายุ 25 ราย ส่วนที่ตลาดยังพุ่ง เหตุสถานที่ปิดอับ-แผงไม่เป็นระเบียบ-ไม่สวมหน้ากากอนามัย
พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด ว่า จากการคาดการณ์สถานการณ์ในประเทศไทยขณะนี้จะเห็นว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งสามารถควบคุมได้ ถึงแม้ว่าอาจจะมีการติดเชื้อหลักหมื่น แต่ถ้าหากพิจารณาจำนวนผู้ติดเชื้อแล้ว และมีอาการหนักหรือเป็นผู้ที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ รวมทั้งผู้ที่เสียชีวิตปัจจุบันเมื่อเทียบกับระลอกเดือน เม.ย. 64 ถือว่าลดลงอย่างมาก
ตอนนี้อัตราการเสียชีวิตค่อนข้างคงตัว ระบบสาธารณสุขในปัจจุบันของประเทศไทยยังรองรับได้ ทั้งนี้ แม้ว่าการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน อาจจะไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย แต่ดีที่สุดคืออย่าติด ขอประชาชนเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคล
หากดูผู้ติดเชื้อโควิดในเดือนมกราคมนี้ กรมควบคุมโรค ได้วิเคราะห์รายละเอียดของผู้ติดเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. - 5 ก.พ. 65 พบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มวัยทำงาน อยู่ในช่วงอายุ 20-49 ปี 55% โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อจากคนใกล้ชิดถึง 47.3% และจากการที่ไปสถานที่เสี่ยงหรืออยู่ในกลุ่มคลัสเตอร์ต่างๆ ถึง 48.4% นอกนั้นเป็นการติดเชื้อในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 0.7% และผู้ที่ตรวจ ATK และผลเป็นบวกแล้วไปตรวจยืนยันแบบ RT-PCR 3.6% นอกจากนี้ยังพบว่า ไม่มีอาการ 45.1% และมีอาการป่วยเล็กน้อย 54.86% และกลุ่มที่มีอาการอยู่ที่ 0.68%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• เช็กเลย มาตรการใหม่ศบค. ลดวันกักตัว ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เหลือ 7 วัน
• UPDATE ศบค. ปรับโซนสีคุมโควิด ลดพื้นที่สีส้ม พร้อมปรับนั่งดื่มได้ถึง 5 ทุ่ม
• ด่วน! ศบค.ปรับโซนสีพื้นที่โควิด ลดสีส้ม เพิ่มสีเหลือง นั่งดื่มได้ถึง 5 ทุ่ม
สำหรับการติดเชื้อที่มีการรายงานเป็นคลัสเตอร์ ยังพบกระจายเล็กๆ ทั่วประเทศ เช่น คลัสเตอร์จากงานเลี้ยงสังสรรค์ งานแต่งงาน งานศพ และงานบวช ซึ่งแม้ว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อไม่มากในแต่ละคลัสเตอร์ แต่มีประสิทธิภาพในการแพร่กระจายสูงของสายพันธุ์โอไมครอน โดยแพร่กระจายไปในครอบครัว ซึ่งมีอัตราการติดเชื้อในครอบครัวอยู่ที่ 40-50% ขณะที่หากเทียบกับอัตราการแพร่กระจายของสายพันธุ์เดลตาไปยังครอบครัวอยู่ที่ 10-20% จะเห็นได้ว่าสายพันธุ์โอไมครอน มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดง่าย
ส่วนใน กทม. การติดเชื้อยังมีอยู่เป็นระยะ ล่าสุดมีคลัสเตอร์ที่สถานดูแลผู้สูงอายุ พบผู้ติดเชื้อ 25 ราย , คลัสเตอร์สถานพยาบาล กทม. 39 ราย , ขอนแก่น ปทุมธานี ชลบุรี 8 ราย , สมุทรปราการ 7 ราย , ลพบุรี 5 ราย , สงขลา นนทบุรี ภูเก็ต จังหวัดละ 4 ราย , สระบุรี มหาสารคาม ปัตตานี จังหวัดละ 3 ราย , ส่วนคลัสเตอร์โรงเรียนและสถานศึกษา มีรายงานพบเป็นระยะที่สระแก้ว 44 ราย , สุรินทร์ 26 ราย , ยโสธร 25 ราย , สุพรรณบุรี 20 ราย , น่าน 19 ราย , ราชบุรี 13 ราย , มหาสารคาม 11 ราย, ขอนแก่น และปราจีนบุรี จังหวัดละ 9 ราย , อำนาจเจริญ และมุกดาหาร จังหวัดละ 5 ราย
ขณะที่คลัสเตอร์โรงงานและสถานประกอบการ พบที่ชลบุรี 20 ราย , ลพบุรี 12 ราย , ประจวบคีรีขันธ์ 10 ราย , ปราจีนบุรี 7 ราย , สมุทรปราการ สุรินทร์ และบึงกาฬ จังหวัดละ 6 ราย , อุดรธานี 5 ราย ทั้งคลัสเตอร์งานประเพณี เป็นคลัสเตอร์เล็กๆ มีผู้ติดเชื้อไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นงานศพ ยังพบที่อุบลราชธานี 6 ราย , มหาสารคาม 5 ราย และสงขลา 4 ราย , ส่วนงานแต่งงาน พบที่ร้อยเอ็ด และสงขลา จังหวัดละ 4 ราย , ราชบุรี 2 ราย , ส่วนงานบวช พบที่ประจวบคีรีขันธ์ 4 รายและขอนแก่น 2 ราย
พญ.สุมนี กล่าวด้วยว่า คลัสเตอร์ที่พบมากที่สุดวันนี้ คือ คลัสเตอร์ตลาด ใน กทม.มากที่สุด 66 ราย , ชลบุรี 29 ราย , อุบลราชธานี 23 ราย , ประจวบคีรีขันธ์ 22 ราย , ขอนแก่น 13 ราย และน่าน 11 ราย โดยพบปัจจัยการแพ้เชื้อ เรื่องสถานที่ที่มีอากาศปิดอับ แผงในตลาดไม่ได้จัดให้เป็นระเบียบ มีคนหนาแน่น ทั้งคนที่ทำงานในตลาดและผู้ที่ไปซื้อของ รวมถึงไม่เคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคล ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย หรือสวมหน้ากากอนามัยไม่ถูกต้อง ใส่ไว้ใต้ค้าง ไม่มีการวัดอุณหภูมิไม่มีจุดวางเจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังพบแรงงานที่ทำงานในตลาด 1 รายไปทำงานในหลายที่ อาจจะเป็นกลุ่มแรงงานที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบ มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดโรคและแพร่ระบาด ดังนั้นเพื่อลดการแพร่ระบาดและการติดเชื้อ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการเจ้าของตลาด พ่อค้าแม่ค้า ปรับสภาพแผงการขายให้เป็นระเบียบ ปรับการระบายอากาศ ให้มีอากาศถ่ายเท หรือความเสี่ยงเกิดจากการสัมผัส ธนบัตร เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ โดยตรง โดยป้องกันได้ด้วยการล้างมือทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม คลัสเตอร์ร้านอาหารและสถานบันเทิง ถือว่ามีการระบาดน้อยลง เมื่อเทียบกับคลัสเตอร์อื่นๆ พบที่ขอนแก่น 15 ราย , ร้อยเอ็ด 13 ราย , มหาสารคาม และประจวบคีรีขันธ์ 9 ราย , สุพรรณบุรี ชลบุรี จังหวัดละ 5 ราย , อุดรธานี สงขลา ชุมพร แพร่และน่าน จังหวัดละ 2-3 ราย