ศปก.ศบค. จ่อชง ศบค. ปรับโซนสี-ผ่อนคลายมาตรการ ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 เดือน

 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลในเวลา 08.50 น. และยังไม่มีภารกิจใดๆในวันนี้

 ด้าน พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เป็นประธานการประชุม ศปก.ศบค. ในช่วงเช้าเพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการที่จะเสนอเข้าที่ประชุมศบค.ในวันพฤหัสบดีที่ 20 ม.ค. โดยเผยว่า ในวันนี้จะเป็นการประเมินสรุปสถานการณ์ ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา นอกจากนี้จะมีการพิจารณาเพื่อผ่อนคลายมาตรการ จะเห็นได้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและระบบการรักษาพยาบาลเข้าที่เข้าทางมากขึ้น จึงจะมีการผ่อนคลายปรับพื้นที่โซนสีแต่ละจังหวัด เพื่อให้ประชาชนมีความคล่องตัวขึ้น 

 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการตั้งแต่ช่วงสัปดาห์แรกหลังปีใหม่ ให้ประเมินข้อมูลเร่งผ่อนคลายมาตรการในส่วนที่สามารถทำได้ เพื่อให้ประชาชนได้ประกอบอาชีพและมีงานทำ และระบบเศรษฐกิจได้ขับเคลื่อน รวมไปถึงภาคการท่องเที่ยวที่จะนำเม็ดเงินเข้าประเทศ และฟื้นฟูเศรษฐกิจ 

 ส่วนความเป็นไปได้ในการอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศในรูปแบบเดิมนั้น พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จริงๆที่คิดไว้แล้วเป็นรูปแบบที่ดีที่สุด เพียงแต่ที่ผ่านมามีประสบการณ์ และที่ประชุมวันนี้ จะดูว่ามีจุดอ่อนตรงไหน และต้องปรับตรงไหน ในเรื่องของข้อมูลข่าวสาร ระบบควบคุมผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ ให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น   

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ศปก.ศบค. เตรียมชง ศบค.ชุดใหญ่ศุกร์นี้เคาะลด-เพิ่ม โซนสีรายจังหวัด

• ศบค.จ่อเคาะยกระดับโซนสี-เข้มกิจกรรมรวมกลุ่ม หวั่นคลัสเตอร์ร้านกึ่งผับ

• ผลสำรวจนิด้าโพล ประชาชน 45.36 % คิดว่า นายกฯ จะอยู่ยาว ตลอดปี 2565

 ผอ.ศปก.ศบค. เผยเพิ่มเติมว่า จะมีการปรับเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศในรูปแบบ Test & Go เงื่อนไขที่สำคัญคือหาวิธีการควบคุมผู้ที่เดินทางเข้าประเทศได้ใน 7 วัน เพราะหลัง 7 วันไปแล้วถือว่าปลอดภัย โดยเมื่อผู้ที่เดินทางเข้าประเทศแล้ว สิ่งที่จะต้องดำเนินการคือ ตรวจคัดกรองเชื้อและต้องอยู่ในการควบคุม หรือคุมไว้สังเกต จะต้องทราบว่าผู้ที่เดินทางเข้าประเทศอยู่ที่ไหนโดยมีระบบติดตามตัว 

 ในวันนี้จะมีมาตรการเพิ่มเติม แต่ไม่ถึงขั้นต้องกักตัว 7 วันอย่างแน่นอน และมีการกำหนดชัดเจนว่าในวันที่ 5 หรือ 6 จะต้องมีการตรวจ RT-PCR อีกครั้งหนึ่ง เมื่อปลอดภัยก็สามารถเดินทางทั่วประเทศไทยได้ ถือได้ว่าเป็นการยกระดับ Test & Go มากขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน โดยเป็นการอนุญาตให้ผู้ที่ลงทะเบียนแบบ Test & Go ไว้แล้วยังคงเข้าประเทศได้ ซึ่งที่ประชุมในวันนี้จะมีการวางมาตรการที่เข้มข้นขึ้น สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศแบบ Test & Go 

 เมื่อถามถึงประเด็น จะกลับมาใช้ Test & Go อีกหรือไม่ เลขาฯ สมช. ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายว่า ขอให้ประเมินสถานการณ์เป็นหลัก โดยหากประเมินตัวเลขการติดเชื้อ ข้อมูลพื้นที่ การดำเนินชีวิตของประชาชน ความร่วมมือของประชาชนและผู้ประกอบการ ก็น่าจะเป็นทิศทางที่ดี ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ก็รายงานต่อนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด 

 ส่วนกรณี การเปิดผับบาร์ ที่ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ที่ก่อนหน้านี้มีการสั่งสำรวจทั้งในส่วนของกทม.และต่างจังหวัดก่อนวันที่ 15 ม.ค.พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ กทม.และพื้นที่จังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการที่มีลักษณะกิจการเป็นผับ บาร์ คาราโอเกะเต็มรูปแบบ ต้องเข้าใจว่าขณะนี้ยังคงมีความเสี่ยงมากอยู่ หากต้องการปรับ ต้องปรับไปตามช่องที่มีการเปิดให้ในรูปแบบร้านอาหารและต้องแจ้งพื้นที่

 ส่วนการชะลอการขยายพื้นที่สีฟ้า (Sand Box) ระยะที่ 2 ในพื้นที่ 13 จังหวัดออกไปก่อนหน้านี้ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า จะมีการพิจารณาเพิ่มเติมในวันนี้ โดยจะพิจารณาจากความพร้อมในพื้นที่ ทั้งมาตรการด้านสาธารณสุขที่จะรองรับ เนื่องจากระบบแซนด์บ็อกเป็นระบบการรับคนใหม่ที่จะเข้าประเทศมา ซึ่งต้องควบคุมให้ปลอดภัยให้ได้ใน 7 วัน 

 รวมไปถึงความพร้อมของคนในพื้นที่ สถานประกอบการให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด  นอกจากนี้ จะนำตัวเลขและลักษณะการติดเชื้อมาพิจารณาร่วมกันเมื่อเทียบกับอัตราส่วนของประชากร และข้อสำคัญคือสาธารณสุขจังหวัดและท่องเที่ยวจังหวัดต้องยืนยันว่าพื้นที่นั้นมีความพร้อม

 พล.อ.สุพจน์ ยังระบุด้วยว่า การผ่อนคลายมาตรการบางส่วนนั้นจะเริ่มเลย  แต่บางส่วนจะเริ่มผ่อนคลายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป แต่ในวันนี้ที่ประชุมศปก.ศบค.จะทำข้อสรุปและส่งเข้าศบค.พิจารณาในวันพรุ่งนี้  

 ส่วนการปรับมาตรการโซนสีจะอนุญาตให้มีการดื่มสุราในร้านอาหารได้หรือไม่นั้น แต่ละพื้นที่โซนสีจะมีมาตรการควบคุมอยู่แล้ว ซึ่งพื้นที่จังหวัดจะมีการเพิ่มเติมมาตรการออกไปควบคุมในลักษณะต่างๆ ตามความจำเป็น 

นอกจากนี้ จะมีการต่อขยายการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน ซึ่งเดิมสิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม 2565 ให้สิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2565 ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนเวลา และยังคงมีความจำเป็น ในการต้องบังคับใช้ในบางกิจกรรมกิจการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค การเดินทางเข้าประเทศ

 ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ปกครองที่ไม่ให้มีการตรวจ ATK หรือสวมหน้ากากอนามัยตามความสมัครใจของกลุ่มนักเรียน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าคิดและสำคัญมาก อย่างตัวเลขการติดเชื้อในบางประเทศที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งต้องดูจากความเป็นอยู่ลักษณะการดำเนินชีวิตของคน หากไม่ตรวจ ATK หรือสวมหน้ากากอนามัยอัตราการติดเชื้อจะสูงมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ ทั้งในกลุ่มผู้ป่วยโควิดและกลุ่มผู้ป่วยในโรคทั่วไป 

 ซึ่งรัฐบาลมีความใส่ใจในระบบสุขภาพของประชาชน จะเห็นว่ามีการติดเชื้อจะเกิดการโกลาหลอย่างมาก และก่อนหน้านี้กระทรวงศึกษาธิการได้รับมาตรการจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสถานศึกษาได้พูดคุยกับผู้ปกครอง ซึ่งหากมีข้อมูลใดๆทางกระทรวงศึกษาธิการสามารถแจ้งข้อมูลมายังที่ประชุม ศปก.ศบค.ได้