เปิดเรื่องที่ต้องรู้ ! ภาษีคริปโทเคอร์เรนซี ก่อนลงทุนจริง

เรื่องภาษีคริปโทเคอร์เรนซี ยังเป็นที่ถูกจับตามองของนักลงทุนอย่างมาก หลังจากที่กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ได้ประกาศแนวปฏิบัติการจัดเก็บภาษีคริปโทเคอร์เรนซีชัดเจนมากขึ้นในหลายประเด็น สามารถสรุปได้ดังนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• สรรพากรชี้แนวทางรีดภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล – เทรดคริปโทฯ มีอะไรบ้าง ?

• ภาษีคริปโทเคอร์เรนซี เก็บอย่างไร ใครมีหน้าที่เสีย ต้องฟังทางนี้ ?

• กรมสรรพากร ให้ใส่ข้อมูลเงินได้จาก "คริปโทเคอร์เรนซี" ในแบบยื่นภาษีแล้ว

เปิดทุกรายละเอียดภาษีคริปโทเคอร์เรนซี

- เก็บภาษีเริ่มตั้งแต่ 0-35% ตามขั้นบันได ตามฐานภาษีแต่ละคนต้องจ่ายหลังหักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อน

- หากเทรดกับกระดาน , Exchange ที่ ก.ล.ต.กำกับ หักกลบกำไรขาดทุนได้

โดยประเด็นนี้ กรมสรรพากร ได้ไปศึกษากรณีการเก็บภาษีคริปโทเคอร์เรนซี ในต่างประเทศหลายประเทศ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงหาทางออกว่า ถ้าเป็นธุรกรรมที่ทำใน Exchange ที่อยู่ในตลาดที่ก.ล.ต.กำกับ จะยอมให้หักกลบได้ ถือว่าเป็นแนวทางสากล

- เก็บภาษีจากธุรกรรมมี 5 แบบ

ทั้งนี้ 5 แบบที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีคริปโทเคอร์เรนซี ได้แก่

1. การจำหน่าย จ่าย โอน หรือแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี/โทเคนดิจิทัล

2. การขุดคริปโทเคอร์เรนซี

3.การได้รับคริปโทเคอร์เรนซีเป็นเงินเดือนหรือค่าจ้าง

4. การได้รับคริปโทเคอร์เรนซี โทเคนดิจิทัลจากการให้ หรือได้รับเป็นรางวัล

5. ได้รับผลประโยชน์หรือผลตอบแทนจากการถือครอง

โดยมี 2  รูปแบบ คือ รูปแบบที่ 1 คือ โทเคนดิจิทัล ถือว่าเป็นเงินได้ประเภทที่ 40 (4)(ช) แห่งประมวลรัษฎากร รูปแบบที่ 2 คือ คริปโทเคอร์เรนซี ถือว่าเป็นเงินได้ประเภทที่ 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร

โดยทั้ง 2 รูปแบบกำหนดยื่นแบบฯ ภ.ง.ด.90/91 สำหรับปีภาษี ภายในวันที่ 31 มี.ค.ของปีถัดไป

สำหรับ 5 ธุรกรรมที่เกิดขึ้น จะต้องวัดมูลค่าโทเคนดิจิทัลหรือคริปโทฯ ทั้งการคำนวณต้นทุนและรายได้ ให้ใช้มูลค่า ณ เวลาที่ได้มา หรือราคาถัวเฉลี่ยในวันที่ได้มา โดยต้องเป็นราคาอ้างอิงที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ราคาที่ประกาศโดย Exchange ที่จัดทำขึ้นตามหลักเกณฑ์ ของ ก.ล.ต.และ ให้เลือกใช้วิธีนั้นตลอดปีภาษีด้วย

- ยกเว้นจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มให้ Exchange ที่ ก.ล.ต.กำกับ

เปิด 2 วิธีสูตรคำนวณภาษีคริปโทเคอร์เรนซี 

1.วิธีเข้าก่อนออกก่อน First in, First out  (FIFO)  คำนวณต้นทุนที่ซื้อมาก่อนจะขายออกไปก่อนตามลำดับ

2.วิธีต้นทุนถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ จะคำนวณแต่ละประเภทจถัวเฉลี่ยต้นทุนประเภทเดียวกัน ณ วันต้นปีกับต้นทุนของคริปโทฯ ที่ซื้อมาในระหว่างปีซึ่งคำนวณทุกครั้งที่ซื้อ

-ตัวอย่างเช่น ซื้อภาษีคริปโทเคอร์เรนซี ในวันที่ 4 ก.พ. 65  1 เหรียญราคา 10,000 บาท ต่อมาในวันที่ 7 ก.พ. ซื้อเพิ่มอีก 1 เหรียญในราคา 12,000 บาท หากเป็นวิธี FIFO ในการคิดต้นทุนเมื่อจะขายออก 1 เหรียญ จะใช้ราคาของเหรียญที่ซื้อเข้ามาก่อนคือ 10,000 บาท

-ถ้าใช้วิธีต้นทุนถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสองเหรียญจะมีต้นทุนเฉลี่ย 11,000 บาท คือนำราคาซื้อทั้งหมดมารวมกันหารด้วยจำนวนเหรียญ