เปิดรายได้ เงินเดือนครูไทย VS ครูเมืองนอก เงินเดือนครูไทยสูงสุดปีละ 9 แสน ขณะที่ลักเซมเบิร์กประเทศที่ครูมีรายได้สูงสุดถึงปีละ 7 หลัก
"ครู" หรืออีกหนึ่งคำที่มักได้ยินอยู่เป็นประจำ คือคำว่า "แม่พิมพ์ของชาติ"
เนื่องจากทุกคนทราบดีว่า เด็กคืออนาคตของชาติ กว่าจะเติบใหญ่เด็กเหล่านี้ต่างต้องผ่านกระบวนการเรียนรู้อยู่ในโรงเรียนกว่า 15 ปี เพียงเพื่อจะจบระดับชั้นมัธยมศึกษา ยังไม่นับอีก 4 ปีในรั่วมหาวิทยาลัย รวมแล้วกว่า 19 ปีแห่งการเรียนรู้
แล้วอย่างนี้ อาชีพครูรายได้เท่าไหร่กัน ? แต่ขอเผยไว้เสียหน่อยว่า ครูที่มีรายได้เฉลี่ยสูงที่สุดในโลก มีรายได้ถึงปีละ 3.2 ล้านบาทกันเลยทีเดียว แต่ว่าจะเป็นประเทศอะไรนั้น ขออุบไว้ก่อนแล้วเราทำความรู้จักกับครูไทยก่อนว่า มีการแบ่งแบบไหนบ้าง และมีรายได้ประมาณเท่าไหร่
โดยครูประเทศไทยในโรงเรียนรัฐบาลจะแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบด้วยกัน คือ 1.ครูอัตราจ้าง 2.ครูผู้ช่วย และ 3.ครูข้าราชการ (ไม่เกี่ยวกับครูโรงเรียนเอกชน)
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
ทั้งนี้ รายได้ครูอัตราจ้าง จะมีเงินเดือน เดือน 5,000-7,000 บาท ในพื้นที่ห่างไกล แต่อาจจะถึงหลักหมื่นต้นๆ เมื่ออยู่ในเมือง โดยครูอัตราจ้าง จะมีชื่อเรียกหรูๆ ให้ได้ยินคุ้นหูกันก็คือ ครูพิเศษ/อาจารย์พิเศษ โดยสามารถแบ่งออกแยกย่อยอีก 2 ประเภท คือ 'เขตจ้าง' กับ 'โรงเรียนจ้าง'
โดยในกรณีที่เขตจ้าง งบประมาณจะเป็นเขตที่จัดสรรแบ่งจ่ายมาให้ และเมื่อทำงานครบ 3 ปี ก็มีสิทธิ์ในการสอบเพื่อบรรจุเป็นครูผู้ช่วยและเป็นครูข้าราชการในเขตนั้นๆ
และอีกรูปแบบของครูอัตราจ้างที่โรงเรียนเป็นฝ่ายจัดจ้างเอง ไม่ว่าจะทำงานกี่ปีก็ตามไม่มีสิทธิ์ในการได้สอบบรรจุ
ในระหว่างที่เป็นครูอัตราจ้างอยู่นี้ จะไม่มีสิทธิ์ได้ขึ้นเงินเดือนแต่อย่างใด รวมไปถึงไม่มีสวัสดิการให้ และโดยส่วนมากมีสัญญาเป็นปีต่อปี
ทั้งนี้เป็นเพราะนักศึกษาที่จบครุศาสตร์มีปริมาณมากกว่าอัตราบรรจุ แต่ในความเป็นจริงอาชีพครูยังเป็นที่ต้องการสูง โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล
ต่อมา ครูผู้ช่วย คือ ผู้ที่สอบผ่านการบรรจุครูแล้วแต่จะต้องมาเป็นครูผู้ช่วยก่อน 2 ปี คลายกับช่วงทดลองงาน เมื่อพ้นประเมินแล้วจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นข้าราชการครู
และสุดท้ายครูที่เป็นข้าราชการประจำ จะมีการแบ่งเป็น คศ. 1 , 2 , 3 , 4 และ 5 เป็นเหมือนลำดับขั้นของครูที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพขึ้นไป โดยปกติแล้วเงินเดือนของครูจะขึ้นทุกๆ 6 เดือน เมื่อไปสุดของเงินเดือนแต่ละขั้นก็จะผันขึ้นไปของอีกขั้น เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย
แต่นอกจากการที่จะปล่อยให้เงินเดือนค่อยๆ ไต่ขึ้นไปตามลำดับ ครูยังสามารถทำวิทยฐานะเพื่อเลื่อนขั้นเงินเดือนได้เร็วยิ่งขึ้น โดยวิทยฐานะจะมีฐานเงินวิทยฐานะด้วย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ครูพัฒนาตัวเอง แล้วนำความรู้ไปพัฒนานักเรียนต่ออีกทีหนึ่ง
การทำวิทยฐานะในแต่ละระดับสามารถไล่เรียงได้ดังต่อไปนี้ ชำนาญการ (ชน.) , ชำนาญการพิเศษ (ชนพ.) , เชี่ยวชาญ (ชช.) และ เชี่ยวชาญพิเศษ (ชชพ.)
สวัสดิการที่ได้รับหลังเป็นข้าราชการครู สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ 7 คน (พ่อ แม่ ตัวเราเอง คู่สมรส และ ลูกอีก 3 คน)
ทั้งนี้ สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) เปิดเผยถึงรายของครูของแต่ละประเทศ ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยอิงข้อมูลของ Education At A Glance 2021 โดยครูในกลุ่มประเทศ OECD จะได้รับเงินเดือน 81-96% ของผู้ที่มีการศึกษาระดับอุดมศึกษา
ซึ่งเงินเดือนครูต่างประเทศจะอยู่ที่ระดับการศึกษาที่พวกเขาสอน ไล่เรียงขึ้นไปตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกตอนปลาย แน่นอนว่าครู/อาจารย์ที่สอนในมหาวิทยาลัยจะมีเงินเดือนที่สูงยิ่งขึ้น ยิ่งเป็นระดับศาสตราจารย์ (Professor) ยิ่งสูง
แต่ตามข้อมูลของ Education At A Glance 2021 จะมีเพียงแค่ประถมและมัธยมเท่านั้น โดยครูที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี สามารถคาดหวังว่าจะได้รับค่าตอบแทนเฉลี่ยรายปี 48,025 ดอลลาร์ (1.6 ล้านบาท) ในระดับประถมศึกษา , 49,701 (1.65 ล้านบาท) ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จะได้อยู่ที่ 51,917 ดอลลาร์ (1.73 ล้านบาท) ต่อปี
*คำนวนที่ 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 33.26 บาท เมื่อวันที่ 27 ม.ค.
ประเทศที่ครูมีรายได้เฉลี่ยสูงสุดคือลักเซมเบิร์ก โดยครูระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี สามารถคาดหวังว่าจะได้รับรายได้มากกว่า 109,000 ดอลลาร์ (3.62 ล้านบาท) ต่อปี หรือตกเดือนละ 3 แสนบาทโดยประมาณ
อีกด้านหนึ่ง ครูในสโลวาเกียที่สอนระดับเดียวกัน มีประสบการณ์สอนเท่ากัน กลับมีรายได้น้อยกว่าลักเซมเบิร์กถึงหนึ่งในสี่ เพียง 19,000 ดอลลาร์ (6.32 แสนบาท) หรือเดือนละ 52,660 บาท เทียบเท่ากับรายได้ครู คศ.4
เหตุใดค่าตอบแทนของครูจึงสำคัญ ?
ผู้ให้บริการด้านการศึกษาจำเป็นต้องสรรหาและรักษาครูที่มีคุณภาพดีที่สุดไว้เพื่อปิดช่องว่างการเรียนรู้ และทำให้มั่นใจว่าเด็กทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่สี่ของ UN
"ค่าตอบแทนและสภาพการทำงานมีความสำคัญต่อการดึงดูด พัฒนา และรักษาอาชีพครูไว้ สิ่งสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายคือจะต้องพิจารณาเงินเดือนและโอกาสทางอาชีพของครูอย่างรอบคอบ เนื่องจากพวกเขาพยายามทำให้แน่ใจว่าทั้งการสอนมีคุณภาพสูงและงบประมาณการศึกษาที่ยั่งยืน" รายงานของ OECD กล่าว