ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ยังยืดเยื้อ แต่กลุ่มทุนค้าปลีกรายใหญ่อย่างกลุ่มเซ็นทรัลก็เดินหน้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้าในยุโรป ล่าสุดปิดดีลยักษ์ภายใต้ความร่วมมือซื้อกิจการห้างของกลุ่มเซลฟริดเจส ที่คาดว่าจะทำยอดขายรวมได้ถึง 7 พันล้านยูโร
กลุ่มเซ็นทรัล และ ซิกน่า บริษัทที่ทำธุรกิจด้านห้างสรรพสินค้าและอสังหาริมทรัพย์ในยุโรป ลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อเข้าซื้อกิจการของกลุ่มเซลฟริดเจส จากตระกูลเวสตัน ซึ่งประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้ารวมทั้งหมด 18 แห่ง เช่น ห้างสรรพสินค้า เซลฟริดเจส (Selfridges) บนถนนออกซ์ฟอร์ด ในกรุงลอนดอน แมนเชสเตอร์ และเบอร์มิ่งแฮม ประเทศอังกฤษ ห้างสรรพสินค้าดี แบนคอร์ฟ (de Bijenkorf) ประเทศ เนเธอร์แลนด์ ห้างสรรพสินค้า บราวน์ โทมัส (Brown Thomas) และ อาร์นอตส์ (Arnotts) ประเทศไอร์แลนด์ โดยการร่วมทุนครั้งนี้เป็นการลงทุนทั้งในธุรกิจห้างสรรพสินค้า อสังหาริมทรัพย์ และกิจการด้านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั้งหมด
การลงทุนในกลุ่มเซลฟริดเจสครั้งนี้ เป็นการร่วมทุนในสัดส่วน 50/50 ระหว่างกลุ่มเซ็นทรัลกับซิกน่า การเข้าซื้อกิจการ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายหลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และเมื่อทุกฝ่ายได้บรรลุเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญา
ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า การลงทุนในกลุ่มเซลฟริดเจสในครั้งนี้ เป็นการลงทุนที่รวมถึงที่ดินและอาคารห้างเซลฟริดเจสบนถนนออกซ์ฟอร์ด ซึ่งตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางบนถนนช้อปปิ้ง ณ กรุงลอนดอน มากว่า 100 ปี ด้วยความที่กลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าเป็นธุรกิจครอบครัว จึงมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ทั้งภายในห้างและช่องทางดิจิทัลต่างๆ สำหรับลูกค้าทั้งที่อยู่ในประเทศและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
ดีเทอร์ เบอร์นิงเฮาส์ (Dieter Berninghaus), ประธานและคณะกรรมการบริหารของกลุ่มซิกน่า กล่าวว่า วางแผนที่จะทำงานกับนักออกแบบชั้นนำของโลกในการปรับโฉมของห้างโดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมการรักษาไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมดั้งเดิมเติมเต็มวิสัยทัศน์ของเกเล็น เวสตัน (Galen Weston)
อลานา เวสตัน (Alannah Weston), ประธานของกลุ่มเซลฟริดเจส กล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการของห้างเซลฟริดเจสโดยกลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าเป็นสิ่งการันตีถึงความสำเร็จของคุณพ่อ (Galen Weston) ที่มีความตั้งใจในการมุ่งมั่นที่จะทำให้ห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเป็นห้างสรรพสินค้าที่สวยและครบครันที่สุด ความคิดสร้างสรรค์เป็นหัวใจของการทำธุรกิจในทุกด้านมาอย่างยาวนาน พร้อมการเติบโตอย่างยั่งยืน พวกเราภูมิใจที่ได้ส่งต่อไปยังเจ้าของใหม่ซึ่งมีรากฐานจากธุรกิจครอบครัวที่มีความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว และพร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งต่อไป”
สเตฟาโน่ เดลลา วาลเล่ (Stefano Della Valle), ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล ยุโรป กล่าวว่า “กลุ่มเซลฟริดเจสเป็นกิจการที่สองที่เข้าซื้อในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นในทั้งธุรกิจค้าปลีกในใจกลางเมืองและอนาคตของห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนเมือง กลุ่มเซ็นทรัลเชื่อมั่นว่าเมื่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ชีวิตที่เป็นปกติและการสังสรรค์ต่างๆจะกลับมา กลุ่มเซลฟริดเจสจะเข้ามาเติมเต็มธุรกิจห้างสรรพสินค้าและออมนิแชแนลของกลุ่มเซ็นทรัล และทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง
กลุ่มเซลฟริดเจส จะเข้ามาเสริมทัพห้างสรรพสินค้าหรูในประเทศท่องเที่ยวชั้นนำ ที่กลุ่มเซ็นทรัล และซิกน่าดำเนินธุรกิจอยู่ อาทิ รีนาเชนเต ประเทศอิตาลี, อิลลุม ประเทศเดนมาร์ก, โกลบุส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, กลุ่มคาเดเว ประเทศเยอรมนี และประเทศออสเตรีย หลังจากการรวมธุรกิจใหม่นี้ จะทำให้กลุ่มบริษัทมียอดขายรวมทั้งหมด 5 พันล้านยูโร ในปี 2019 และ คาดว่าจะเติบโตถึง 7 พันล้านยูโรในปี 2024 จาก 8 ประเทศ และ 35 เมืองสำคัญในยุโรป
เกเล็น เวสตัน (Galen Weston) ได้เข้าซื้อกิจการห้างดังเซลฟริดเจส เมื่อปี 2003 และได้ก่อตั้งกลุ่มเซลฟริดเจสขึ้นในปี 2010 โดยการรวบรวมแบรนด์ห้างสรรพสินค้าชั้นนำไว้ด้วยกัน นำแนวคิดริเริ่มใหม่ๆด้านดีไซน์ ประสบการณ์ลูกค้า การพัฒนาดิจิทัลและออมนิแชแนลแพลตฟอร์ม ตลอดจนบริการต่างๆ โดยนับได้ว่าห้างเซลฟริดเจสได้ชื่อว่าเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับระดับโลก
กลุ่มเซ็นทรัล ก่อตั้งและบริหารโดยตระกูลจิราธิวัฒน์มา กว่า 4 เจเนอเรชั่น ได้มีการดำเนินการขยายธุรกิจในภูมิภาคยุโรปดังนี้
• ปี 2011 เริ่มขยายธุรกิจไปยุโรปจากการเข้าซื้อกิจการห้างรีนาเชนเต ประเทศอิตาลี
• ปี 2013 เข้าซื้อกิจการห้างอิลลุม ประเทศเดนมาร์ก
• ปี 2015 เข้าซื้อกิจการห้างกลุ่มคาเดเว ประเทศเยอรมนี ด้วยการร่วมทุนกับซิกน่า
• ปี 2020 เข้าซื้อกิจการห้างโกลบุส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยการร่วมทุนกับซิกน่า
รวมถึงมีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ในยุโรปอีกด้วย การลงทุนทั้งหมดนี้ทำให้ยุโรปเป็นตลาดหลักและตลาดสำคัญของกลุ่มเซ็นทรัล โดยมีผู้บริหารระดับสูงประจำอยู่หลายแห่งในยุโรป รวมทั้งที่กรุงลอนดอน
ซิกน่าเป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และรีเทล โดยบริษัทดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 20 ปี และ ยังเป็นผู้นำด้านรีเทลออมนิชาแนลในหลายประเทศของยุโรป
ธุรกิจรีเทลของซิกน่าประกอบกิจการค้าปลีกหลายประเภทผ่าน Signa Retail Selection ในประเทศเยอมนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีพนักงานในสังกัดรวมกว่า 36,000 คน ธุรกิจรีเทลมียอดขายรวม 8 พันล้านยูโร (ในปี 2021/22) โดยหนึ่งในสี่ของรายได้มาจากการขายผ่านช่องทางออนไลน์ บริษัทมีฐานลูกค้าสมาชิก (Loyalty Program) กว่า 15 ล้านคน บริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งสิ้นกว่า 2.4 หมื่นล้านยูโร
กลุ่มเซลฟริดเจส เป็นกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่ประกอบไปด้วย 5 แบรนด์ดัง ได้แก่ เซลฟริดเจส (Selfridges) ประเทศอังกฤษ, บราวน์ โทมัส (Brown Thomas) ประเทศไอร์แลนด์, อาร์นอตส์ (Arnotts) ประเทศไอร์แลนด์, ดี แบนคอร์ฟ (de Bijenkorf) ประเทศเนเธอร์แลนด์ และโฮล์ท เรนฟรูว์ (Holt Renfrew) ประเทศแคนาดา ทั้งกลุ่มมีห้างสรรพสินค้ารวมทั้งสิ้น 25 แห่งทั่วโลก