ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในทุกภาคส่วน กลุ่มเซ็นทรัลและธุรกิจในเครือ ห่วงใยและอยู่เคียงข้างลูกค้า คู่ค้า และมุ่งหวังให้ทุกส่วน ปรับตัวต่อวิถีใหม่และเดินหน้าต่อได้ ผ่าน 3กลยุทธ์อันแข็งแกร่ง คือ REDUCE – REBUILD - REINFORCE
พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย ควบคู่กับมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ภาคธุรกิจและบริการเดินหน้าต่อได้ แม้จะมีสัญญาณเชิงบวกด้านการผ่อนคลายล็อคดาวน์ การกระจายวัคซีนที่มากขึ้น รวมถึงนโยบายเปิดประเทศ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด กลุ่มเซ็นทรัล จึงได้วางแนวทางการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย โดยการร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทุกภาคส่วน ผนึกกำลังธุรกิจในเครือ ในการเป็น Central of Life เร่งเครื่องเดินหน้าสนับสนุน ตั้งแต่ระดับฐานราก SMEs คู่ค้า รวมถึงกระตุ้นการใช้จ่ายของคนไทยและนักท่องเที่ยว ภายใต้กลยุทธ์ทั้ง 3 แนวทาง ประสานกันอย่างเข้มแข็งลงตัว
1. REDUCE : การสนับสนุนช่วยเหลือประคองธุรกิจ และการลดค่าใช้จ่าย
วางแนวทางเพื่อให้ธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs สามารถประคองการดำเนินธุรกิจ ลดค่าครองชีพประชาชน อีกทั้งก่อให้เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง
1.1 ลดค่าเช่าพื้นที่ ในศูนย์การค้าตามความเหมาะสมให้กับคู่ค้ากว่า 15,000 ราย บนพื้นที่รวมกว่า 40,000 ตารางเมตรทั่วประเทศ
1.2 ลดค่าครองชีพ ด้วยการจัดให้มีการลดราคาสินค้า กับ แคมเปญ Hug Thais ของเซ็นทรัลพัฒนา และเซ็นทรัล รีเทล เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ชวนกิน ช้อป ใช้ เที่ยวที่ไทย
1.3 ล็อคและลดราคาสินค้า ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ตรึงราคาประหยัด แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ให้กับทุกคน
2. REBUILD : ขับเคลื่อนกิจกรรมเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวและเดินหน้าต่อ
คำนึงถึงกลไลสำคัญต่อการฟื้นฟู โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เน้นการสนับสนุนแหล่งเงินทุน เพื่อเป็นแรงผลักดันให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ พร้อมกับการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ
2.1 นำศักยภาพขององค์กรมาสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายให้กับสินค้าชุมชน อาทิ ตลาดจริงใจ โดยท็อปส์, จัดให้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าชุมชนใน ไทวัสดุ และบ้านแอนด์บียอนด์ สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 840 ล้านบาท รวมกว่า 1,450 ชุมชน 35,000 ราย
2.2 เสริมสภาพคล่องทางการเงิน ด้วยการผนึกกำลังกับสถาบันการเงินชั้นนำ ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ให้กับคู่ค้าและ SMEs ตั้งเป้ารวมกว่า 500,000 ราย เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ
2.3 กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศ และ ระบบเศรษฐกิจชุมชน ด้วยการจัดแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ภายใต้แคมเปญ “Shopcation Exclusive Privileges” โดยร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการให้ส่วนลดร้านค้าและที่พักในกลุ่มเซ็นทรัล มอบให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองไทยในโครงการ Phuket Sand Box และ Samui plus
2.4 เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขยายธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเติบโต เกิดการจ้างงานต่อเนื่อง โดยการเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา (27 ต.ค. 64), ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อยุธยา (30 พ.ย.64)
3. REINFORCE : เสริมกำลังด้วยการยกระดับพัฒนาศักยภาพ เพื่อแนวทางการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพ มั่นคง และ ยั่งยืน
ใช้ศักยภาพของทุกธุรกิจในกลุ่ม เพื่อเป็นแนวทางในการปรับกลยุทธ์แบบองค์รวม เพิ่มโอกาสภายใต้บริบทใหม่ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปและพร้อมที่จะก้าวนำภายใต้ความปลอดภัยในการดำรงชีวิต
3.1 รองรับการใช้ชีวิตในวิถีใหม่ด้วยการใช้จุดแข็ง Omnichannel Platform ลูกค้าสามารถเข้าถึงการซื้อสินค้าได้ง่ายและสะดวกสบายทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ มั่นใจ ปลอดภัย อาทิ Live Streaming, Chat and Shop, Drive-Thru, Pick-up เป็นต้น
3.2 มุ่งบริการ Contactless Payment เช่น บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน ที่มอบประสบการณ์การใช้จ่ายผ่านเครื่องชำระเงินระบบไร้สัมผัส หรือระบบ e-Payment ของ Dolfin Wallet
3.3 ใช้ช่องทางการสื่อสารบนโลกออนไลน์ ของกลุ่มเซ็นทรัล นำไป พัฒนาเพิ่มศักยภาพให้กับ ชุมชน เกษตรกร ในการทำการสื่อสาร และเปิดช่องทางการจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ พร้อมอบรมให้ เกษตรกร ได้มีองค์ความรู้ใหม่ อาทิ JD Central หรือ Central Tham Market
3.4 การต่อยอดให้สตาร์ทอัพเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เช่น เซ็นทรัล รีเทล จับมือกับ Mercular สตาร์ทอัพรุ่นใหม่ด้านอีคอมเมิร์ซกลุ่มสินค้า Hobby & Lifestyle เพื่อเพิ่มช่องทาง New Retail ผ่านออมนิแชแนล แพลตฟอร์ม
กลุ่มเซ็นทรัลเชื่อว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืน จะใช้เวลามากน้อยแตกต่างกันออกไปในแต่ละภาคธุรกิจ ซึ่งต้องอาศัยการสมัครสมานจากทุกภาคส่วนในการดำเนินงานอย่างตรงจุด ยืดหยุ่น และครบวงจร เพื่อนำพาประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤตโควิด และ มีความสุขบนชีวิตวิถีใหม่ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป