เนเธอร์แลนด์ ล็อกดาวน์รอบใหม่ ท่ามกลางการระบาดโควิด-19 ในยุโรป

เนเธอร์แลนด์ ล็อกดาวน์รอบใหม่ ท่ามกลางการระบาดโควิด-19 ในยุโรป ถือเป็นประเทศแรกในยุโรปตะวันตกที่ล็อกดาวน์

มาร์ค รัตต์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ประกาศล็อกดาวน์บางส่วนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อดูแลชาวดัตช์ให้รอดพ้นจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ก่อตัวเพิ่มมากขึ้นในเนเธอร์แลนด์ โดยระบุว่า "Social Distancing กำลังจะกลับมา รวมไปถึงการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ทั้งภายในร้านค้าและระบบขนส่งมวลชน"

การล็อกดาวน์เริ่มในคืนวันเสาร์ ซึ่งเป็นล็อกดาวน์แรกในยุโรปตะวันตกนับตั้งแต่ระบาดระลอกใหม่ที่ลุกลามไปทั่วทุกส่วนของทวีป

ภายใต้การล็อกดาวน์ครั้งใหม่ ทั้งบาร์ ร้านอาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ต จะต้องปิดในเวลา 20.00 น. การแข่งขันกีฬาอาชีพจะเล่นในสนามกีฬาที่ว่างเปล่าไร้ผู้ชม และผู้คนถูกกระตุ้นให้ทำงานจากบ้านให้มากที่สุด ในขณะที่ร้านขายสินค้าที่ไม่จำเป็นต้องปิดเวลา 18.00 น. ซึ่งถูกผู้ประกอบการทั้งหลายออกมาประนามในการล็อกดาวน์ครั้งนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ดร.ไมเคิล ไรอัน หัวหน้าแผนกฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) กล่าวถึงสถานการณ์ที่ย่ำแย่ลงในยุโรปว่า "ค่อนข้างตรงไปตรงมา บางประเทศอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในขณะนี้ที่พวกเขากำลังจะไป พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะไม่วางมาตรการจำกัด อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อลดความรุนแรงของการส่งสัญญาณ"

ฮูโก้ เดอ ยองเญ่ รัฐมนตรีสาธารณสุขเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า "รัฐบาลกำลังดำเนินการออกกฎหมายเพื่อจำกัดการเข้าถึงสถานที่และกิจกรรมที่ "มีความเสี่ยงสูง" บางแห่ง เฉพาะผู้ที่สามารถแสดงให้เห็นว่าตนได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนหรือหายจากโควิด-19 เท่านั้น แม้ว่าจะมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก็ไม่อนุญาต" ซึ่งมีความใกล้เคียงกับมาตรการควบคุมโควิด-19 ของออสเตรียและบางส่วนของเยอรมนีที่ออกมาก่อนหน้านี้ไม่นาน

สหพันธ์ฟุตบอลเนเธอร์แลนด์และลีกอาชีพชั้นนำ 2 ลีก ออกแถลงการณ์แสดงความ "ผิดหวังอย่างยิ่ง" ในการล็อกดาวน์ที่กำลังจะเกิดขึ้น และยืนยันว่าสนามฟุตบอลซึ่งมีมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวด ไม่ได้เป็นต้นเหตุของการติดเชื้อ

นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ยืนยันว่าการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกระหว่างเนเธอร์แลนด์และนอร์เวย์ในวันอังคารที่จะถึงนี้ ในสนามรอตเตอร์ดัม จะเล่นแบบปิด

กระทรวงสาธารณสุขของเนเธอร์ ยืนยันประเทศมียอดผู้ป่วยโควิด-19 กว่า 2,283,083 ราย คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 18,728 ราย ในประเทศที่ผู้ใหญ่เกือบ 85% ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน และยุติการจำกัดการล็อกดาวน์เมื่อสิ้นเดือนกันยายน