Sharenting ที่อาจบานปลาย สู่การ ละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของคนในครอบครัว

Sharenting ความหมาย ที่อาจบานปลายสู่ ละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของเด็ก
.
นับแต่โลกมีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนและทุกคนมีโซเชียลมีเดีย พฤติกรรมมนุษย์ก็มีความเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจัยเหล่านี้  ในต่างประเทศ เกิดคำว่า Sharenting ขึ้นมาใหม่ 
.
โดยคำคำนี้ เป็นการ ผสมกันระหว่างคำว่า Parenting (การเลี้ยงลูก) กับ Share (แบ่งปันสิ่งต่างๆ ลงในโลกออนไลน์) เมื่อรวมกันแล้วคำนี้จะถูกใช้ในความหมายว่า การที่ผู้ปกครองแชร์รูปลูกๆ ของตัวเองลงในโซเชียลมีเดีย
ในปริมาณที่มากๆ และเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในประเด็นเหล่านี้ อาจเกิดเหตุการณ์บานปลาย ไปจนถึงขั้น มีการละเมิด "สิทธิความเป็นส่วนตัวของเด็ก" ทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ตาม
.
ในประเด็น เรื่อง Sharenting  ก็มีประเด็นแยกย่อยของเรื่องความเป็นส่วนตัวด้วย เพราะในบางครั้ง บางโอกาส ข้อมูลส่วนตัวของลูกหรือเด็ก อาจ "หลุด" ไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือบางครั้ง บางภาพ บางเหตุการณ์ มันอาจเข้าข่ายละเมิด สิทธิความเป็นส่วนตัวของเด็ก และภาพเหล่านั้น ไม่ต่างอะไรกับการที่ ผู้ปกครองกำลังเอามีดแห่งอนาคตมากรีดแทงลูก 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• หนึ่ง จักรวาล กับเรื่องราวชีวิต จากเด็กสลัมคลองเตย สู่นักดนตรีชื่อดัง

• ถอดบทเรียน "หนึ่ง จักรวาล" หมอเด็กชี้แสดงความรักได้ แต่ต้องเคารพสิทธิ์ลูก

• ซี ศิวัฒน์ งานเข้าไปด้วย! เจอทัวร์ลงยับ หลังคอมเมนต์คลิป หนึ่ง จักรวาล

ณ เข็มนาฬิกาเดินไปในปัจจุบัน ทั่วโลกต่างไฮไลท์ เรื่องความเป็นสิทธิความเป็นส่วนตัวของเด็กมากขึ้น โดยเฉพาะในยุโรป หลายประเทศต่าง มีกฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิของผู้ปกครองในการแชร์ข้อมูลส่วนตัวลูกๆ ขณะที่ สหรัฐฯก็มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กและเยาวชน (The Children’s Online Privacy Protection Act of 1998) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า COPPA ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2000 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันการ เก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการใช้อินเทอร์เน็ตของเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี
.
อย่างไรก็ตาม กลไกทางกฎหมายทั่วโลก ดูท่าจะบังคับใช้จริงได้ยาก อีกทั้งคงไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าลูกจะลุกขึ้นไปฟ้องร้องผู้ปกครอง  แต่อีกหนึ่ง ทางออกของการไขปัญหาเรื่องนี้ แบบที่เรียบง่ายที่สุด  นั่นก็คือ การถามและ ขอความยินยอมจากลูก (consent) ก่อนโพสต์ข้อความหรือรูปภาพลงโลกออนไลน์ ใดๆ

ทำไมจึงต้องแชร์รูปเด็กในออนไลน์ ? 
.
คำถามอีกหนึ่งคำถาม ที่เชื่อว่า อาจจะเคยอยู่ในใจใครหลายคน กับคำถามที่ว่า "ทำไมคุณแม่ หรือ คุณพ่อ ถึงชอบอวดลูก ลงโลกออนไลน์ ?" 
.
ในประเด็นนี้  การอวดของมนุษย์แม่ หรือพ่อ ไม่ได้หมายถึงการอวดว่า ลูกหน้า ตาดี แต่คือการอวดพัฒนาการของลูก ซึ่งกลายเป็น Moment of joy หรือห้วงเวลาแห่งความสุจของเหล่าคุณแม่คุณพ่อ ให้ได้เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ และช่วงเวลาประทับใจ ทำให้คนที่เห็นได้มีความสุขไปด้วย และมันได้กลายเป็นความทรงจำอิเล็กทรอนิกส์ต่อไปในอนาคต
.
อย่างไรก็ตาม การกระทำใดๆของพ่อแม่ก็ควรคำนึงถึงว่า สิทธิความเป็นส่วนตัวของเด็กมากขึ้นด้วย

คนดังต่างประเทศอวดลูก (จนส่ออันตราย) 
.
ในอดีตเคยมีเหตุการณ์ที่คนดังของโลก อย่างไมเคิล แจ๊คสัน เจ้าของฉายา คิง ออฟ ป๊อบ The King Of Pop  เคย "อวดลูก" ด้วยการอุ้มหนูน้อย ออกมาจากระเบียงที่พัก ที่อยู่สูงใน เบอร์ลิน เยอรมนี เมื่อปี 2002 ซึ่งถึงแม้ครั้งนั้น เจตนาของไมเคิล แจ๊คสัน เจ้าของเพลงดังมากมาย อาทิ Billie Jean , Smooth criminal , Black or white จะเป็นเพียงการ "หยอกล้อ" กับปาปารัซซี่ตามติดชีวิตของเขา และตามถ่ายรูปเขา แค่นั้นก็ตาม 
.
แม้ในเวลานั้นจะยังไม่มี โซเชียลมีเดียอย่างทุกวันนี้ แต่นั่นก็ทำให้ MJ ไมเคิล แจ๊คสัน กลายเป็นคนที่ถูกโจมตี และโดนสาดคำวิจารณ์อย่าหนัก จากการกระทำที่ "ส่ออันตราย" ต่อลูกของเขา 

เมื่อคนดัง เป็นเหยื่อ : ถูกควบคุมจากคนในครอบครัว 
.
ส่วนอีกหนึ่งกรณี ที่คราวนี้ เป็นคนดังระดับที่ถูกผู้ปกครองควบคุมชีวิตมาเนิ่นนาน จนกระทั่งต้องสูญเสียตัวตนของตัวเองไป ชีวิตต้องขาด "การใช้ชีวิตที่แท้จริง" ไป อันเป็นผลการกระทำจากคนในครอบครัว นั่นก็คือ “บริทนีย์ สเปียร์ส” นักร้องดังแห่งยุคมิลเลเนียม ที่ถูกควบคุมจาก “เจมี่ สเปียร์ส” (Jamie Spears) บิดาวัย 69 ปี 

แม้ล่าสุด จะมีคำสั่งจากศาล ให้ “เจมี่ สเปียร์ส” ผู้เป็นพ่อ ยุติบทบาทหน้าที่การเป็นผู้พิทักษ์ของ “บริทนีย์ สเปียร์ส” แล้ว หลังทำหน้าที่นี้มายาวนาน 13 ปีนับแต่ปี 2008 แต่ช่วงชีวิตที่ขาดหายไปของบริทนี่ย์ สเปียร์ คงต้องยอมรับว่า มันช่างเป็นเรื่อง น่าเสียดาย จริงๆ 

.
กลับมาที่ประเด็น Sharenting ที่อาจจะบานปลายสู่ ละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของคนในครอบครัวอีกครั้ง
.
สำหรับเรื่องนี้ หากมองในภาพใหญ่ของสังคม การกระทำแบบนี้ อาจเป็นกระจกสะท้อนว่า พ่อแม่บางคนแบ่งปันเรื่องราวของลูกมากขึ้นหรืออาจถึงขั้นเปิดเพจลูกแบบจริงๆจังๆ  เรื่องในลักษณะนี้ มีผลมาจากค่านิยมในสังคมที่เชื่อว่าชีวิตที่ประสบความสำเร็จคือชีวิตที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ปฏิเสธไม่ได้ว่าโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางสำคัญที่สามารถเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นคนมีชื่อเสียงได้
.
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม รูปเพียงรูปเดียว หรือคลิปวิดีโอสั้นๆ เพียงไม่กี่วินาที แต่มันก็อาจกลายเป็นสิ่งติดตัวลูกๆ ไปอีกนาน...มัน อาจจะกลายเป็น บาดแผล ไปอีกนานในชีวิต