ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศ ผ่อนคลายมาตรการโควิด ลดเวลาเคอร์ฟิว เป็น 23.00 น. ถึง 03.00 น. พร้อมมาตรการคลายล็อกร้านอาหาร-โรงหนัง-ห้างสรรพสินค้า เริ่ม 16 ต.ค. นี้
วันที่ 16 ต.ค. 64 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 35) เพื่อผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ปรับลดจำนวนจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เหลือ 23 จังหวัด และลดเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ตั้งแต่เวลา 23.00 น. - 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 16 ต.ค.64 อย่างเป็นทางการแล้ว
สำหรับสาระสำคัญของราชกิจจาฯ กำหนดดังนี้ ปรับลดเวลาการห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานในช่วงเวลากลางคืน หรือ ลดเคอร์ฟิว จากเดิม 22.00 น. ถึง 04.00 น. มาเป็น 23.00 น. ถึง 03.00 น. เป็นที่เรียบร้อยแล้วมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป โดยมีระยะเวลาการพิจารณาปรับลดเคอร์ฟิวเพิ่มเติมอย่างน้อย 15 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"ราชกิจจาฯ"เผยแพร่ หมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล
ราชกิจจานุเบกษา ประกาศคงข้อกำหนด"ห้ามชุมนุม" ช่วงสถานการณ์โควิด-19
ราชกิจจาฯ ประกาศลดอัตราจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ม.33 นาน 3 เดือน
ปรับลดพื้นที่ควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนี้
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จากเดิม 29 จังหวัด เหลือ 23 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครศรีธรรมราช นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา ระยอง ราชบุรี สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี
พื้นที่ควบคุมสูงสุด จากเดิม 37 จังหวัด เหลือ 30 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครราชสีมา นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี มหาสารคาม ระนอง ลพบุรี ศรีสะเกษ สตูล สระแก้ว สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อ่างทอง อุดรธานี อุบลราชธานี เพชรบูรณ์
พื้นที่ควบคุมจากเดิม มี 11 จังหวัด เพิ่มเป็น 24 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่ กำแพงเพชร นครพนม น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สุโขทัย หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อำนาจเจริญ
นอกจากนี้ ศบค. ยังมีมติผ่อน คลายล็อกดาวน์ ในกิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข็มงวด โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ดังนี้ ทุกกิจกรรมที่ผ่อนคลายมาตรการให้สามารถดำเนินการได้ไม่เกิน 22.00 น.
-ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือตลาดนัด จำหน่ายสินค้าได้ทุกประเภท รวมทั้งสามารถเปิดบริการ เครื่องเล่น สวนสนุก ได้
-ธุรกิจโรงภาพยนตร์ หรือฉายภาพยนตร์ ร้านอาหาร โรงละคร โรงมหรสพ สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ฯ แต่ยังเน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งคัดต่อเนื่อง
-สถานดูแลผู้สูงอายุ โดยให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับ โดยให้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด บุคลากรต้องได้รับการฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ และสุ่มตรวจ TK ทุกปสัปดาห์ รวมทั้งผู้ใช้บริกางต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์
-รถขนส่งสาธารณะ ทุกประเภทปรับเพิ่มความจุได้ตามความเหมาะสมของสภาพยานพาหนะ จากเดิมที่กำหนดให้บรรจุผู้โดยสารได้แค่ 75%
ผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมทุกพื้นที่
-ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ โดยอนุญาตให้เปิดบริการ ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม ที่เล่นเป็นรายบุคคล หรือแข่งเป็นคู่เท่านั้น แต่จะต้องสวมหน้าหากตลอดเวลา ยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและควบคุมเข้มงวด
-ยังไม่เปิดให้บริการสวนน้ำ สวนสนุก ทุกพื้นที่
-สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ เปิดดำเนินการตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00น.
กิจกรรมรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคขยายมาตรการ ดังนี้
-พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน
-พื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 100 คน
-พื้นที่ควบคุม ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน
-พื้นที่เฝ้าระวังระวังสูง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 300 คน
-พื้นที่เฝ้าระวัง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน
ยังไม่เปิดให้บริการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ กระทรวงมหาดไทย กทม. และสาธารณะสุข เร่งรัดกำหนดมาตรการสำหรับเตรียมการให้แล้วเสร็จภายใน 31 ต.ค. 64