Google Maps นำเสนอทางเลือกให้กับผู้ขับขี่บนท้องถนนในการเลือกหาเส้นทางที่จะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นนโยบายใหม่ของบริษัทที่จะสนับสนุนตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผู้ขับขี่รถยนต์สามารถเลือกเส้นทางที่จะลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ต่ำที่สุด หนึ่งในปัจจัยสำคัญของการดำรงชีวิตมนุษย์ในปัจจุบันคือการเดินทางด้วยรถยนต์ และเป็นสาเหตุหลักของปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเยอะมากๆ เช่น สภาพการจราจรที่ติดขัดทำให้เกิดการสะสมของก๊าซในชั้นบรรยากาศ
นวัตกรรมนี้เริ่มใช้ทดลองที่สหรัฐอเมริกาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาและจะใช้ในยุโรปปี2022 โดยระยะทางและระยะเวลาการเดินทางจะพอๆกับเส้นทางหลัก โดยกูเกิลแมพ (Google Maps)จะเริ่มตั้งค่าเส้นทางคาร์บอนไว้เสมอเป็นการตั้งค่าเริ่มต้น
Sundar Pichai (Ceo’google) กล่าวว่า แนวคิดนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1 ล้านตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับรถ 200,000 คันบนท้องถนน
Google ยังเสริมอีกว่า สิ่งนี้จะช่วยให้พนักงานส่งของ หรืออาหารเดลิเวอรี่ ได้หันไปใช้รถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้ามากขึ้น รวมไปถึงจะได้ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลด้วย หรือก็คือลดการใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลนั่นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Climate Change : ไฟป่าซีกโลกเหนือปีนี้ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทำลายสถิติ
งานใหญ่แห่งปี GCNT Forum 2021 รวมพลังสมาชิก ยกระดับธุรกิจ สู้วิกฤตโลกร้อน
แนวคิดรักษ์โลกอื่นๆได้ประกาศโดยบริษัทเทคโนโลยี รวมไปถึงในอนาคตอาจมีการเลือกเส้นทางลดก๊าซคาร์บอนบนอากาศยานหรือ เพิ่มฟีเจอร์เส้นทางคาร์บอนต่ำให้ผู้โดยสารเลือกเส้นทางการบินเอง ตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป ผู้ใช้งานทั่วโลกจะสามารถพบเจอกับฟีเจอร์ตัวเลือกการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่อที่นั่งสำหรับทุกเที่ยวบินและตัวเลือกเที่ยวบินคาร์บอนต่ำ
กูเกิลจะยังคงเพิ่มการเปลี่ยนแปลงด้านการชอปปิง โดยผู้ใช้งานที่กำลังมองหาอุปกรณ์ เช่น เครื่องล้างจาน หรือเครื่องทำน้ำร้อน ก็จะมีคำแนะนำในแถบการชอปปิง ที่จะช่วยนำทางผู้ซื้อไปสู่ทางเลือกที่ยั่งยืน
กูเกิลได้ประกาศอย่างเป็นทางการในปี 2020 แล้วว่าจะมุ่งเป้าลดการใช้พลังงานที่ปล่อยคาร์บอนให้ตำลงให้ได้ในปี 2030
"ภาวะโลกร้อนจะมาถึงในอีกไม่ช้า มันเพิ่มขึ้นทั้งในระดับท้องถิ่นและเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ทั่วโลก ไฟป่า น้ำท่วมและสภาพอากาศสุดโต่งจะทวีความรุนแรงขึ้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เศษฐกิจ และอนาคตของมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้" (Sundar Pichai)
ในประเทศไทย จากการตรวจสอบสายการบินตอนนี้ยังไม่พบฟีเจอร์นี้ หากใครพบเจอมาบอกกันด้วยนะ
ที่มาข้อมูล The Guardian