ฝันเก็บ ‘ภาษีอีเซอร์วิส’ ปีแรก5พันล้าน จับตาโยนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ลูกค้า

เดินหน้าปั้นรายได้เข้ารัฐจากภาษีอีเซอร์

ช่วงต้นเดือนกันยายน2564 ที่ผ่านมา มีการพูดถึงภาษีอีเซอร์ (e-Service) หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กันมาก ที่เรียกเก็บจากแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย ซึ่งเริ่มเก็บไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2564 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีนี้นำเงินเข้ารัฐมาใช้ในการบริหารงานต่าง ๆในประเทศ แต่...เรื่องนี้ก็มีหลายคนตั้งคำถามมาว่าแล้วจะกระทบเจ้าของธุรกิจ หรือผู้ประกอบการ ลามมาถึงราคาสินค้า และบริการ หรือไม่ ?

แพลตฟอร์มดิจิทัลต่างชาติเริ่มเสียภาษีอีเซอร์วิสให้ไทยแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สรรพากร พร้อมเรียกเก็บภาษี e-Service ดีเดย์ 1 ก.ย. 64 นี้  

• ครม.กลั้นใจ ยืดภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% อีก 2 ปี เซ่นพิษโควิด-19 ลดกระทบประชาชน

• เล็งปรับ "ภาษีมูลค่าเพิ่ม" เป็น10 % จัดเก็บเงินเข้ารัฐ แต่...กระทบใครบ้าง ?

เรื่องนี้ ‘นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยว่า ภาษีอีเซอร์วิสมีผลบังคับใช้เป็นแล้ว ดังนั้นประกอบการชาวต่างประเทศที่เข้ามาทำธุรกิจให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือออนไลน์ต่าง ๆ แก่ผู้ใช้บริการที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในไทยก็จะต้องมีการเสียภาษีนี้ โดยมีเงื่อนไข คือ เจ้าของธุรกิจ หรือผู้ให้บริการต่างชาติที่มีรายได้จากการให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาท จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบงานภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศบนเว็บไซต์กรมสรรพากร พร้อมกับยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และชำระภาษีเป็นรายเดือนภายในวันที่ 23 ต.ค.2564

เปิด5บริการที่ต้องเสียภาษีมีอะไรบ้าง?

ทั้งนี้หากถามว่าแล้วธุรกิจไหนต้องมาจดทะเบียน และดำเนินการทางภาษีอีเซอร์วิสบ้าง คำตอบคือ มี 5 กลุ่มธุรกิจ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้

1.ธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มขายของออนไลน์

2. บริการจองโรงแรมที่พัก การเดินทาง

3.โฆษณาออนไลน์

4.ให้บริการดูหนัง ฟังเพลงออนไลน์ เกม แอปพลิเคชัน

5. ให้บริการในการเป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย

ฝันหวานรายได้ปี2565 ทะลุ5,000 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลัง ได้ออกมาคาดการณ์ว่า หลังจากเริ่มเก็บภาษีอีเซอร์วิสไปแล้ว ในปี2565 จะมีรายได้จากการเก็บภาษีอีเซอร์วิสประมาณ 5,000 ล้านบาท  ซึ่งหากอัพเดทข้อมูลล่าสุดจะพบว่ามีธุรกิจต่างชาติมาขอลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มบนเว็บไซต์กรมสรรพากรแล้ว 61 ราย พร้อมกันนี้คาดว่าแนวโน้มในอนาคตจะมีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถจัดเก็บรายได้เข้ารัฐสูงกว่านี้

คลังหวั่นผู้ประกอบการผลักภาระให้ผู้บริโภค

ซึ่งหากถามอีกว่ากลัวเจ้าของธุรกิจต่างชาติจะมีการผลักภาระมาให้บริโภค ผู้ใช้บริการคนไทยหรือไม่ ? ประเด็นนี้ กรมสรรพากร ออกมาแสดงความกังวลว่าภาษีอีเซอร์วิสที่ผู้ประกอบการต้องเสียให้รัฐ สุดท้ายแล้วผู้ประกอบการเหล่านี้จะหาวิธีผลักภาระมาให้ผู้บริโภคต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยหรือไม่เหมือนกับที่เราซื้อสินค้า บริการในท้องตลาดทั่วไปที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มรวมไปในราคาสินค้า เพราะเนื่องจากได้สำรวจข้อมูลพบว่าต่างประเทศอื่น ๆ ที่มีการเก็บภาษีอีเซอร์ ได้มีทั้งผลักภาระ และไม่ผลักภาระภาษีให้ผู้บริโภค มีทั้ง 2 กรณีเลย จึงทำให้มีความกังวลในเรื่องนี้พอสมควร

ทั้งนี้จำเป็นต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่าแท้ที่จริงแล้วการจัดเก็บภาษีอีเซอร์ นำเงินเข้ารัฐในแต่ละปี สามารถสร้างรายได้มหาศาลหรือไม่ บนโลกแห่งการขยายตัวทางเทคโนโลยีเช่นนี้ เพราะยิ่งโลกก้าวเข้าสู่การทำธุรกิจบนดิจิทัลก็อาจทำให้ธุรกิจขยายตัว และจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น หรือแท้ที่จริงแล้วแฝงมากลับการผลักภาระให้ผู้บริโภค !