พาเปิด ! ตลาดผ้าอนามัย 6,000 ล้านบาท รับกระแส ‘ผ้าอนามัยแบบสอด’ ร้อนแรง

พาส่องเรื่องราวผ้าอนามัย เหตุไฉนถึงเป็นประเด็น

หนึ่งในของใช้จำเป็นสำหรับคุณผู้หญิง คือ ผ้าอนามัย แต่...ตอนนี้กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอบนโลกออนไลน์ ในเรื่องของ “ผ้าอนามัยแบบสอด” จนมี #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี หลังจากที่จากกรณีราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวงที่ประกาศให้ผ้าอนามัยแบบสอด เป็นเครื่องสำอาง จนกระทั่งเรื่องร้อนไปถึง ‘น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล’ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวานนี้ 22 ก.ค. 2564 โดยยืนยันว่า ผ้าอนามัยเป็นสินค้าควบคุม ไม่ขึ้นภาษี

ทั้งนี้ได้มีการชี้แจงเรื่องผ้าอนามัยแบบสอด และเรื่องผ้าอนามัยต่าง ๆ ว่า ปัจจุบันมีผ้าอนามัย 2 ชนิด คือ ผ้าอนามัยใช้ภายนอก และชนิดสอด ซึ่งทั้ง 2 ชนิดถูกจัดว่าเป็นเครื่องสำอางตั้งแต่ปี 2528 เพราะเข้ากับนิยามเครื่องสำอางคือ วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใดต่อส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายเพื่อความสะอาด

ผ้าอนามัยหนึ่งในสินค้าจำเป็นสำหรับผู้หญิง

และเมื่อปี 2558 มีการแก้ไข พ.ร.บ.เครื่องสำอางใหม่ มีการแก้ไขนิยามของคำว่า “เครื่องสำอาง” ทำให้ “ผ้าอนามัยแบบสอด” หลุดจากคำนิยามของเครื่องสำอาง แต่ผ้าอนามัยใช้ภายนอก ยังเป็นเครื่องสำอาง จึงเป็นเหตุผลให้ต้องออกกฎกระทรวงกำหนดให้ผ้าอนามัยชนิดสอดเป็นเครื่องสำอาง นอกจากนี้ผ้าอนามัยยังเป็น 1 ใน รายการสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ไม่มีการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัยในอัตราภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยถึง 40% ภาษีผ้าอนามัยจึงจะถูกจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มตามราคาของสินค้าเหมือนสินค้าชนิดอื่น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เดือดกันไม่หยุด หลังราชกิจจาฯ ให้ "ผ้าอนามัยแบบสอด" ขึ้นเป็นเครื่องสำอาง

• ทำเพื่อ! ตร.ตามหาสาวเจ้าของรถเก๋งตากชุดชั้นใน - ติดผ้าอนามัย รอบคัน

• สรรพสามิตโต้พรรคเพื่อชาติ ยันไม่เคยเก็บ "ภาษีผ้าอนามัย"

ยันผ้าอนามัยแบบสอด ไม่ต้องจ่ายภาษีสรรพสามิต 30 %

ขณะที่ ‘นายลวรรณ แสงสนิท’ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงเรื่องผ้าอนามัยแบบสอดว่าเป็นเครื่องสำอาง กังวลว่าจะทำให้ต้องมีภาระเสียภาษีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอัตราภาษีของผ้าอนามัยอยู่ที่ 30%  ว่า กรมสรรพสามิต ไม่มีนโนบายการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัย และไม่เคยมีการกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ซึ่งปัจจุบันกรมสรรพสามิตมีการจัดเก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยเพียงรายการเดียว คือ น้ำหอม  ในอัตราภาษีตามมูลค่า 8%

อย่างไรก็ตามปัจจุบันผ้าอนามัยเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% เท่านั้น ไม่ได้เสียภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยหรือมีเพดานการจัดเก็บภาษี 30% ตามที่เป็นข่าว เพราะสินค้าผ้าอนามัยไม่ถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นที่สตรีต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นในนิยามการเสียภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย คือถ้าไม่มีใช้ ก็ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าส่งผลกระทบ ก็ให้ถือว่าเป็นสินค้าที่ไม่ฟุ่มเฟือย

เปิดตลาดผ้าอนามัย 6พันล้านบาท แบรนด์ไหนฮิต

ที่กล่าวมาข้างต้น คือเรื่องราวของผ้าอนามัยแบบสอด แต่...วันนี้ #สปริงนิวส์ จะพามาส่องดูตลาดผ้าอนามัยว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูล พบว่า ตลาดผ้าอนามัยไทยมีมูลค่าต่อปี 6,000 ล้านบาท และ แต่ละแบรนด์มีสัดส่วนตลาด ดังนี้

-โซฟี    50%

-ลอรีเอะ    37%

-โมเดส   10%

-อื่นๆ   3%

.

ซึ่งแบ่งเป็น

-สำหรับกลางวัน 66.3%

-สำหรับกลางคืน 33.7%