โซเชียลเดือดตามกันมาติดๆกับ #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี หลังราชกิจจานุเบกษา ให้ "ผ้าอนามัยแบบสอด" ขึ้นเป็น เครื่องสำอาง หวั่นอาจฉวยโอกาสเพิ่มภาษี ทั้งที่เป็นของจำเป็นของผู้หญิง ซึ่งบางประเทศมีการประกาศยกเลิกเก็บภาษีผ้าอนามัยแล้ว
เดือดตามกันมาติดๆกับประเด็นของ #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี โดยเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ กฎกระทรวง กำหนดวัตถุอื่นเป็นเครื่องสำอาง พ.ศ.2564 โดยระบุว่า อาศัยอำนาจตามความใน (๓) ของบทนิยามคำว่า "เครื่องสำอาง" ในมาตรา ๔ และมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. ๒๕๕๘ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ให้ผ้าอนามัยชนิดสอดที่ใช้สอดใส่เข้าไปในช่องคลอดเพื่อซับเลือดประจำเดือนเป็นเครื่องสำอาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่ (๓) ของบทนิยามคำว่า "เครื่องสำอาง" ในมาตรา < แห่งพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้บัญญัติให้วัตถุอื่น ที่กำหนดโดยกฎกระทรวงเป็นเครื่องสำอาง และโดยที่มีความจำเป็นต้องควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน ของผ้าอนามัยชนิดสอดเพื่อให้สามารถคุ้มครองความปลอดภัยและอนามัยของผู้บริโภคได้ สมควรกำหนดให้ผ้าอนามัยชนิดสอดเป็นเครื่องสำอาง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
หลังจากที่ได้มีการเผยแพร่ราชกิจจานุเบกษา ฉบับนี้ออกไป ทำให้ #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี พุ่งขึ้นเทรนทวิตเตอร์ เนื่องจากหลายคนมองว่า การขึ้น "ผ้าอนามัยแบบสอด" เป็นเครื่องสำอางนั้น จะทำให้เสียภาษีเพิ่มมากขึ้น โดยหลายคนมองว่าการรณรงค์เรื่อง ผ้าอนามัยฟรี ไม่มีภาษี ก็รณรงค์มานาน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นในทุกๆเดือนของผู้หญิงและห่างใกล้กับคำว่า "เครื่องสำอาง" มาก ทั้งนี้หลายประเทศก็ได้มีการยกเลิกภาษีผ้าอนามัยแล้ว เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา อินเดีย มาเลเซีย เยอรมนี