รัฐสภาผ่านฉลุย ร่าง พรบ.ประชามติ รณรงค์ได้อย่างเสรี ประชาชนสามารถเข้าชื่อขอ ครม.ทำประชามติได้ เพิ่มวิธีการออกเสียงทางออกไลน์ ส่วนกรณีออกเสียงประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้คณะรัฐมนตรีกำหนดวันออกเสียงภายใน 120 วัน
การประชุมรัฐสภาวันนี้ ที่ประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ในวาระที่ 2 รายมาตรา และให้ความเห็นชอบในวาระที่ 3 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในวาระที่ 3 ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติด้วยมติเสียง ข้างมาก 611 ต่อ 4 เสียง งดออกเสียง 2
โดยร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีทั้งสิ้น67 มาตรา มีสาระสำคัญ อาทิ
- ให้อำนาจประชาชนเข้าชื่อ 50,000 รายชื่อ ยื่นเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาออกเสียงประชามติในเรื่องต่างๆได้ รวมทั้งให้อำนาจ
- ประชาชน พรรคการเมือง และกลุ่มต่างๆ ในสังคมสามารถรณรงค์การออกเสียงประชามติได้อย่างเสรี
- เพิ่มวิธีการออกเสียงประชามติ นอกจากการกาบัตร ในคูหาแล้ว ให้สามารถออกเสียงทางไปรษณีย์ หรือการออกเสียงโดยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ หรือออกเสียงผ่านระบบออนไลน์ได้ในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ก้าวไกล" ฟันธง แก้รัฐธรรมนูญเป็นแผนปูทาง "ประยุทธ์" นั่งเก้าอี้
ก้าวไกล ชำแหละแก้ร่างรัฐธรรมนูญพรรคพลังประชารัฐ เปิดช่องให้คอรัปชั่น
“ระบบเลือกตั้ง” ประเด็นที่ต้องจับตา ในศึกแก้รัฐธรรมนูญ รอบใหม่
- กรณีออกเสียงประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้คณะรัฐมนตรีกำหนดวันออกเสียงภายใน 120 วัน
- ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุให้การออกเสียงไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1-10ปีและปรับถึง 200,000บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด10ปี
- ผู้ใดทำลายบัตรออกเสียงหรือจงใจทำให้เป็นบัตรเสีย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน1ปี ปรับ 20,000บาท หากเจ้าพนักงานทำเองเสีย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน10ปี ปรับ 200,000บาท ตัดสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
- ผู้ใดทำลายเครื่องลงคะแนน หรืออุปกรณ์ในการออกเสียง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 หากเจ้าพนักงานทำเองเสีย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน10ปี ปรับ 200,000บาท ตัดสิทธิเลือกตั้ง 10ปี
- ผู้ใดกระทำการทุจริต อาทิ ใช้บัตรปลอมลงคะแนน นำบัตรออกจากสถานที่ออกเสียง แจ้งข้อมูลการออกเสียงต่อผู้อื่น หรือออกเสียงแทนผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
- ผู้ใดก่อความวุ่นวาย หรือกระทำการอันเป็นการรบกวนในการออกเสียง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
- ผู้ใดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ เล่นการพนัน ซื้อหรือขายเสียง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และตัดสิทธิการเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี
- ห้ามขนคนไปออกเสียงประชามติ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท แต่ไม่ถูกตัดสิทธิเลือกตั้งเหมือนในอดีต
- กรณีกรรมการประจำหน่วยจงใจนับบัตร หรือรวมเอาคะแนนออกเสียงประชามติผิดไปจากความเป็นจริง ต้องระว่างโทษจำคุก 10 ปี ปรับถึง 200,000 บาท ตัดสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
- ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรต้องรับโทษในราชอาณาจักรด้วย