บริษัททัวร์-ธุรกิจสปา กระอักเลือด โควิด-19 ทำเจ๊ง ปิดกิจการกว่า 2 หมื่นราย
ทนพิษบาดแผลโควิด- 19 ไม่ไหว บริษัททัวร์-ธุรกิจสปา ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับท่องเที่ยวไทย กระอักเลือดเจ๊งระนาว ล่าสุดมีข่าวว่าเศรษฐี เงินถุง เงินถัง ทุนยุโรป จีน กว้านซื้อกิจการเพียบ
แน่นอนอยู่แล้วว่าโควิด-19 ทำลายล้างธุรกิจทุกอย่างราบคาบ ที่เห็นจะหนักหนาสาหัสสุด ๆ ก็ต้องธุรกิจท่องเที่ยว ต่างชาติไม่มา เพราะมาไม่ได้ คนไทยก็ไม่มีเงิน แถมกลัวโรคอีกต่างหาก ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวโรงแรม บริษัททัวร์ ธุรกิจสปา ตอนนี้แทบกระอักเลือด หลายรายทำทุกวิถีทางเพื่อประคับประคองธุรกิจให้รอด แม้ว่ารัฐจะออกมาตรการมาช่วยบ้างแล้วก็ตาม แต่ตราบใดโควิด-19 ยังผุดๆ โผล่ ๆ สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือ “ทำใจ” ยอมรับความจริง
จากวันนั้นระลอกแรก จนถึงวันนี้ระลอก3 ภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยวไทย บอกได้คำเดียวตอนนี้ อ่วมอรทัย วันนี้ #SPRING จะพาไปส่องความเคลื่อนไหวว่าสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับท่องเที่ยวเป็นอย่างไร ซึ่งก็ได้ข่าวมาแว่ว ๆ ว่า บริษัททัวร์ ธุรกิจสปา เจ๊งระนาว ปิดกิจการเป็นว่าเล่น ‘นายวสุเชษฐ์ โสภณเสถียร’ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไป (สปข.) และรองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2564 มาจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจทัวร์นำเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างมาก รายได้หายไปกว่า 95% หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาทต่อเดือน
ทั้งนี้ที่ผ่านมาผู้ประกอบการบริษัททัวร์ในตลาดรวม มีจำนวนราว 50,000 รายขณะนี้เหลืออยู่เพียง 40% หรือ 20,000 ราย เท่านั้นที่หากมีงานกลับมาก็สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ ส่วนอีก 40% หรือ 20,000 ราย ปิดธุรกิจแบบถาวรไปแล้ว ส่วนอีก 20% หรือ 10,000 ราย อยู่ก้ำกึ่งระหว่างการปิดชั่วคราวและปิดถาวร เมื่อธุรกิจทัวร์นำเที่ยวปิดตัวลงจำนวนมาก ส่งผลให้แรงงานในธุรกิจทัวร์นำเที่ยว ถูกเลิกจ้างไปจำนวนมากเช่นกัน จากทั้งระบบมีประมาณ 1 แสนคน ขณะนี้คาดว่าเหลือไม่ถึง 20%
นอกจากบริษัททัวร์จะปิดตัวไปมากแล้ว ในส่วนของธุรกิจสปา ก็ปิดตัวเยอะเช่นกัน โดย ‘นายกรด โรจนเสถียร’นายกสมาคมสปาไทย เผยว่า ธุรกิจสปาไทยปิดตัวถาวรไปแล้วกว่า 40% หรือกว่า 3,000 ราย ในส่วนที่เหลือก็ต้องยึดใบอนุญาตสถานประกอบของตัวเองที่ได้รับไว้ก่อน จากไม่มีแขกหรือลูกค้าใช้บริการ หรือปิดไปก่อนเพื่อให้ลูกจ้างได้รับการเยียวยาจากประกันสังคม ซึ่งหลายบริษัทหลายองค์กรใช้วิธีนี้สำหรับสถานประกอบการที่อยู่ในระบบประกันสังคม ขณะที่ผู้ประกอบการที่อยู่นอกระบบและไม่ได้รับอนุญาตก็มีจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามยังพบอีกว่า ธุรกิจสปาของไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิดในเวลานี้มีกลุ่มทุนต่างชาติทั้งจากจีน ยุโรป รวมถึงคนไทยด้วยกันเองสบจังหวะติดต่อเข้ามาซื้อกิจการที่ประสบปัญหา ซึ่งเมื่อธุรกิจฟื้นตัวก็สามารถทำกำไรได้ โดยเฉพาะสถานประกอบการที่มีทำเลที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่แล้ว เพราะโอกาสทางการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องด้านนี้ของไทยดีอยู่แล้ว ดังนั้นต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า จะมีบริษัททัวร์ และธุรกิจสปา จะปิดตัวเพิ่มอีกหรือไม่ หากสถานการณ์โควิด-19 ยังเป็นเช่นนี้ ?
