"ทักษิณ" อดีตนายก ร่วมวงสนทนาประเด็นการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ชี้ทางรัฐบาลหาวัคซีน ยัน"ไฟเซอร์" เข้าไทยแล้วแต่ไม่มาก แนะอย่ามองคนรุ่นใหม่ไม่รักชาติ เพราะไม่มีใครอยากย้ายประเทศ เผยรู้สึกพลาดชวน ‘วิษณุ’ มาเป็นรองนายกฯ "ยิ่งลักษณ์" ร่วมแจมให้กำลังใจชาวคลองเตย
วันที่ 4 พฤษภาคม 2564 นายทักษิณ ชินวัตร หรือ "โทนี่" ได้ร่วมเข้ารายการ CARE Clubhouse x CARE Talk : คิดเคลื่อนไทย พลิกฟื้นวิกฤติโควิด กับ Tony Woodsome โดยได้พูดถึงประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 วัคซีน และประเด็นร้อนอย่าง "ย้ายประเทศกันเถอะ" ที่กำลังถูกพูดถึงบนโลกโซเชียล
นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้เศรษฐกิจในไทยสดุดเป็นอย่างมาก เพราะต้องล็อกดาวน์ประกอบกับการส่งออกตกอย่างต่อเนื่องส่วนที่หวังจากการท่องเที่ยวก็คงต้องเลื่อนหมด เงินลงทุนจากต่างประเทศก็ สโลว์ดาวน์ มากเพราะขาดความไม่เชื่อมั่นสูง เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจค่อนข้างฟื้นยาก ไม่ได้มองในแง่ร้าย รัฐบาลกู้เงินไปก็ไม่ได้ใช้ในเชิงกระตุ้นเศรษฐกิจหรือใช้ในการสร้างความเชือมั่นในเรื่องของการแก้ปัญหาโควิดเท่าที่ควร ซึ่งรัฐบาลมุ่งไปเรื่องของการเมืองมากไป ทั้งที่นายกไม่ได้มาจากพรรคการเมือง เพราะฉะนั้นต้องเลิกคิดเรื่องการเมืองและผลประโยชน์ ต้องคิดอย่างเดียวคือแก้ปัญหาชาติและสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร และการแก้ปัญหาโควิดนายกฯต้องคิดก่อนว่าต้องเริ่มต้นอย่างไรในเมื่อท่านรวบรวมอำนาจมาที่ท่านแล้ว และใช้อำนาจใช้กฎหมายในการบริหารจัดการโควิดซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ ต้องใช้หลักความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ทางการแพทย์ เพื่อจะมาดูว่าต้องแก้ปัญหาอย่างไรอย่างมีระบบและสื่อความหมายกับประชาชนให้เข้าใจไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก
ทั้งนี้นายทักษิณ ยังได้พูดถึงวัคซีนที่ไทยเลือใช้ โดยได้กล่าวว่า วันนี้เราสั่งวัคซีนมา 2 อย่าง คือ แอสตร้าเซนเนก้า และ ซิโนแวค ซึ่งผมงงว่า ทำไมเลือกวัคซีน เลือก 2 ยี่ห้อนี้ ทั้งๆที่ใครทั่วโลกก็รู้ว่าอันดับหนึ่ง ต้องไฟเซอร์ กับ โมเดอร์นา ถ้าจีน ต้องซิโนฟาร์ม ทำไมไทยเลือก 2 อันนี้ แต่ถ้าได้มาแล้วก็ไม่ว่ากันแล้วทำไมไม่หาตัวอื่นมาอีก เท่าที่ผมรู้ อย.อนุมัติ 4 บริษัท แต่ไม่มีไฟเซอร์ แล้วทุกคนต้องไปซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม เพราะบริษัทต่างๆ ไม่อยากเดือดร้อนรับผิดชอบถ้าแพ้ ก็ต้องให้โรงพยาบาลไปซื้อต่อมาฉีดให้ลูกค้า
นายทักษิณกล่าวต่อว่า หากเข้าไปดูเว็บไซต์ วันนี้ประเทศไทยมีเอา ไฟเซอร์ เข้ามาแล้ว ไม่รู้เท่าไหร่ แต่ว่า เอาเข้าแล้ว ไม่มาก คงใช้กันไม่มีคน
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้ หากสั่งไม่ได้ ทำไมไม่ยืมมาก่อน อย่างสปุตนิก หากให้ 10 ล้าน เราขอล้านนึงก่อนได้ไหม ต้อง aggressive พอที่จะไปเจรจาต่อรอง ไม่ใช่บอกอีก 6 เดือนมาเอา 10 ล้าน วันนี้ วัคซีนยังไงก็ต้องใช้ เป็นสิ่งที่ต้องทำ ทั้งด้านเศรษฐกิจและภูมิคุ้มกัน ซึ่งรัฐบาลต้องเปิดเสรีนำเข้าวัคซีนได้แล้ว และไม่ต้องไปหวงประชาชน ภาคเอกชนจะช่วย จะออกเงินเอา อะไรเอง จะห้ามเขาทำไม อยากใช้งบหรือไง วันนี้ต้องใจกว้าง ทุกอย่างต้องหาโซลูชั่น อย่าเป็นคนมีปัญหา
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ในส่วนของโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่นั้นไม่มีการเว้นระยะห่าง ไม่มีอะไรกั้น เชื้อก็กระจาย โรงแรมวันนี้ ไม่มีนักท่องเที่ยว 1-3 ดาว รัฐก็ไปเหมาไปทำที่กักตัวได้ คืนละ 500 - 800 มีอาหารเช้า ห้องใครห้องมัน มีห้องน้ำในตัว ไปดูว่าทรัพยากรที่มี งบก็มี เอาไปใช้ช่วยโรงแรมที่ไม่ไหวแล้ว และ ร้านอาหารที่ปิด จะช่วยกันในตัว
ทั้งนี้ในระหว่างช่วงเปิดให้ผู้ร่วมวงสนทนา นางสาวยิ่งลักษณ์ก็ได้เข้ามาพูดทักทายกับผู้ร่วมสนทนา โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ฝากความคิดถึงประชาชน และแสดงความเป็นห่วงประชาชนในชุมชนคลองเตย โดยอยากให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนอย่าท้อ ระหว่างที่รอวัคซีนที่ไม่รู้จะมาถึงเมื่อไหร่
ส่วนเรื่องประเด็นร้อนอย่าง "ย้ายประเทศ" นายทักษิณ บอกว่า มียอดคนสนใจที่จะย้ายประเทศมากถึง 7 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นคนอายุ 25 - 35 ปี พวกเขาเหล่านี้มองไม่เห็นความก้าวหน้าของประเทศ กลุ่มคนพวกนี้ต้องเข้าใจ อย่าไปกล่าวหาว่าไม่รักชาติ คำพูดนั้นมันตกยุค ต้องเข้าใจว่า เจนนี้เขาคิดอย่างไร เด็กยุคนี้อย่าไปโกหกเขา ทำผิดไม่เป็นไร และอย่าไปก้าวล่วงชีวิตส่วนตัว เพราะวิธีคิดมันต่างกัน
ช่วงสุดท้ายก่อนจบรายการ ได้มีการเอาคอมเมนต์ของผู้ร่วมชมกับคำถามที่ว่า คิดยังไงกับ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ตอบว่า “เสียดายเพราะว่า วิษณุ เครืองาม อุตส่าห์ไปเรียนเบิร์กลีย์ การใช้กฎหมายของท่าน น่ารังเกียจมาก เสียดายที่ผมไปชวนจากเลขาครม. มาเป็นรองนายกฯ ผมพลาดมาก ผมผิดไปแล้ว ผมต้องขอโทษด้วย ถ้าใครไม่ชอบเขา”
ขณะที่รายการดังกล่าวกำลังออกอากาศ บนทวิตเตอร์ได้เกิด #นายกในดวงใจ จนติดเทรนด์