สาธิต ปิตุเตชะ เปิดไทม์ไลน์ เผย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

วันนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก แจ้งว่า ตัวเองเป็น ตนเองเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (High risk) ไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อ ซึ่งได้กักตัว และปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรค ดังนี้

“ผมเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง (High risk) ไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อ จึงขอปฏิบัติตัวเป็นแนวทางให้กับกลุ่มเสี่ยงสูงตามมาตรการ กรมควบคุมโรค

“ผมได้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และมีภูมิคุ้มกันขึ้นแล้ว (อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เป็นภูมิคุ้มกันแบบ Neutralising Antibody หรือไม่ ต้องมีการส่งตรวจเพิ่มเติมครับ)

กักตัว ตามมาตรการ กรมควบคุมโรค

“ดังนั้น ผมและผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในวันดังกล่าวจึงขอกักตัวเองตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด และจะตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อยืนยันผลการไม่เจอสารพันธุกรรมของไวรัส COV-19

"ผมเริ่มกักตัวเอง และงดภารกิจ งานต่างๆ ที่ร่วมกับผู้อื่น เพื่อสังเกตอาการ อีก 5 วัน แล้วรอการตรวจหาสารพันธุกรรม (ตรวจ COV-19) อีกครั้ง ถ้าผลเป็นลบ ก็จะถือว่าไม่มีเชื้อจากการสัมผัสเสี่ยง และจะดำเนินการตามมาตรการของกรมควบคุมโรค ต่อไป"

การปฏิบัติ หลังทราบว่า ร่วมรับประทานอาหาร กับผู้ติดเชื้อโควิด-19

หลังจากผมทราบเรื่องว่ามีผู้ร่วมรับประทานอาหารกับผมในวันที่ 5 เม.ย.64 ติดเชื้อ Cov-19 จำนวน 1 ท่าน ผมได้ดำเนินการดังต่อไปนี้

1. ผมได้แจ้งให้ทุกคนที่ได้เจอผมตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.64 จนถึงปัจจุบันซึ่งยังเป็นผู้เสี่ยงตำ่ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องกักตัว ให้สังเกตอาการของตัวเอง หลีกเลี่ยงที่ชุมชน เว้นระยะห่าง และใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลา

2. ผมได้แจ้งให้ทุกคนในวันดังกล่าว “เข้าตรวจหาเชื้อ cov-19 ทันที”

3.ผมได้แจ้งให้ทุกคนในวันดังกล่าว “เขียน Timeline ของแต่ละคน” ชี้แจงกับผมและเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีข้อยกเว้น!!

ปัจจุบัน ถึงแม้ผลการตรวจหาสารพันธุกรรมของผมจะเป็นลบ แต่ผมถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงโดยอยู่ใกล้กับผู้ป่วยติดเชื้อ และต้องปฏิบัติตนตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด

"ผมได้แนบ Timeline ทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ได้พบกับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด มาในโพสต์นี้ อย่างละเอียด หากใครที่สัมผัสกับผมในช่วงเวลาดังกล่าวขอให้สังเกตอาการตัวเอง หลีกเลี่ยงที่ชุมชน และใส่หน้ากากตลอดเวลาครับ

"เราช่วยกันเองได้ ช่วยหมอและบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ด้วย ครับ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม"

"สุดท้ายผมต้องกราบขออภัยทุกท่านที่ผมต้องขออนุญาตยกเลิกงานต่างๆ ที่ผมได้รับนัดหมายไว้แล้ว ผมจะพยายามติดตามงานที่ยกเลิกต่างๆ เมื่อผมพ้นการกักตัวครับ ต้องขออภัยทุกๆ ท่านอีกครั้ง"