ช่วงนี้ราคาน้ำมันปาล์มแพงมาก ๆ ถึงขวดละ 48 บาทเลยทีเดียว ส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ขาย พ่อครัวแม่ครัวที่ต้องทำอาหารแน่นอน สาเหตุหลักมากจากพื้นที่ปลูกปาล์มประสบภัยธรรมชาติจนทำให้ผลผลิตปาล์มออกมาน้อย วันนี้จะพาไปลองเทียบดูว่าเงิน 1 บาทที่เพิ่มขึ้นค่าอาหารกลางวันเด็กต้องใช้เงินจาก 48 คน จึงจะได้น้ำมันปาล์ม 1 ขวด
แม้จะมากจะน้อยก็ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับเด็ก ๆ หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันของนักเรียน ตั้งแต่ “อนุบาล 1 – ประถมศึกษา 6” เป็น 21 บาท/คน/วัน โดยโครงการอาหารกลางวันของนักเรียน ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งมีจำนวนโรงเรียน 49,861 โรงเรียน และจำนวนนักเรียน 5,894,420 คน งบประมาณทั้งสิ้น 25,436,304,000 ล้านบาท
ทั้งนี้จะแบ่งอุดหนุนให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 23,561,921,200 ล้านบาท และจัดสรรให้สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับนักเรียนเอกชนอีก 1,874,382,800 บาท ซึ่งจะสามารถเริ่มดำเนินการปรับค่าอาหารกลางวันของนักเรียนอัตราใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 และจะทันต่อการเปิดเทอมครั้งที่ 2 ในปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
ไหน ๆ ก็พูดเรื่องอาหารกลางวันแล้ว สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำอาหาร คือน้ำมันปาล์ม ที่เป็นประเด็นร้อนมากในตอนนี้ และส่งผลกระทบต่อพ่อครัวแม่ครัวแน่นอน รวมถึงพ่อค้าแม่ขายที่ขายอาหารเพราะช่วงนี้ราคาน้ำมันปาล์มในท้องตลาดปรับตัวสูงขึ้นมาก ๆ พุ่งสูงถึงขวดละ 48 บาท โดยตัวเลขสต็อกน้ำมันปาล์มดิบล่าสุดจากกรมการค้าภายใน พบว่าปรับตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จนเหลือต่ำกว่าระดับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบสำรองที่ควรจะมีที่ 250,000 ตันแล้ว โดยยอดสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ เมื่อเดือนพ.ย.2563 มีอยู่ที่ 301,664 ตัน ต่อมาในเดือนธ.ค.2563 ได้ปรับลดลงไป 30.9% เหลือเพียง 208,396 ตัน ซึ่งต่ำกว่าระดับสต็อกปลอดภัย และยิ่งไปกว่านั้นในการตรวจสต็อกล่าสุดของเดือนม.ค.2564 ลดไปเหลือเพียง 141,130 ตันเท่านั้น
ปัจจุบันสต็อกน้ำมันปาล์มก็ลดลงไปมากทำให้หลายฝ่ายมีกังวลว่าในเดือนก.พ.นี้ หากสต็อกลดลงอีกอาจทำให้ประชาชนเดือดร้อนจากปัญหาน้ำมันปาล์มราคาแพง และขาดแคลนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ทำให้สต็อกน้ำมันปาล์มดิบในปีนี้ลดลงจนต่ำมาก เนื่องจากตลอดปี 63 พื้นที่เพาะปลูกปาล์มประสบภัยธรรมชาติในหลายพื้นที่ จนทำให้ผลผลิตปาล์มออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้จากประมาณมีผลปาล์ม 16.1 ล้านตัน เหลือเพียง 14.9 ล้านตัน ลดกว่าคาดการณ์เกินกว่า 1 ล้านตัน อีกทั้งเปอร์เซ็นต์น้ำมันในผลปาล์มยังลดลงไม่ถึง 17% ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานกลับไม่มีนโยบายลดปริมาณนำน้ำมันปาล์มไปผลิตไบโอดีเซลให้สอดคล้องกับปริมาณผลผลิตที่มีอยู่จนทำให้สต็อกลดลงเร็ว
เรื่องนี้ก็ต้องจับตากันดูต่อไปว่าจะกระทบกับผู้บริโภคในระยะยาวมากน้อยเพียงใด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งเข้ามาแก้ไขได้ทันสถานการณ์หรือไม่ ต้องลุ้นกัน แต่จะว่าไปแล้วน้ำมันปาล์มก็แพงขึ้นจริง ๆ หากเทียบกับเงินที่น้อง ๆ นักเรียนได้เพิ่มคนละ 1 บาท นั่นหมายความว่าต้องใช้เงินน้อง ๆ ถึง 48 คน จึงจะให้แม่ครัวไปซื้อน้ำมันปาล์มมาทำอาหารได้ 1 ขวด !