เปิดรายละเอียดชัดๆ ประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรี ของพรรคฝ่ายค้าน พบประเด็นใหญ่ โควิด-19, ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์พวกพ้อง, กลุ่มทุน, ม็อบราษฎร ชี้รัฐบาลนี้ เป็นยุค "ทุจริตเฟื่องฟู"
วันนี้ (25ม.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 10 รัฐมนตรี ที่ กลุ่มพรรคฝ่ายค้าน ได้ยื่นอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจมีเหตุผลและรายละเอียดที่สำคัญ ได้แก่
1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีพฤติการณ์บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาด บกพร่อง รวมถึงไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรม จริยธรรม ไร้ภาวะผู้นำ ไร้จิตสำนึกและความรับผิดชอบ รวมถึงปล่อยให้เกิดการฉ้อฉล ละเลยให้เกิดการทุจริต เพื่อสร้างความร่ำรวย มั่งคั่งให้ตนเองและพวกในภาวะที่ประชาชนดำรงชีวิตลำบาก และการระบาดของไวรัสโควิด-19
“การบริหารที่ผิดพลาด มีการใช้อำนาจและผลประโยชน์ทำให้ทุจริตแพร่กระจายไม่ต่างจากโรคระบาด จนชื่อว่าเป็นยุคที่ทุจริตเฟื่องฟู มากที่สุด นอกจากนั้นยังปกปิดการกระทำผิดของตนเองและพวกพร้อง ไม่รอบคอบ ไม่ระมัดระวังการใช้งบประมาณ ไม่รักษาวินัยการเงินการคลัง มุ่งแต่ประโยชน์ สร้างความนิยมให้ตนเอง ไม่คำนึงถึงประโยชน์ชาติ สร้างความแตกแยก” ในญัตติของพรรคฝ่ายค้านระบุ
ทั้งนี้ในประเด็นที่คาดว่าจะอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ นั้นตามญัตติระบุว่า การปิดกั้นเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน และสื่อมวลชน, บ่อนการพนันที่ละเลยให้มีกระจายทั่วไป, ทำลายและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยใช้สถาบันเป็นข้ออ้างเพื่อแบ่งแยกประชาชน รวมถึงแอบอ้างสถาบันเพื่อปิดบังความล้มเหลวของการบริหารราชการแผ่นดิน
2. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุพฤติการณ์ว่า ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลใช้งบประมาณเพื่อความร่ำรวย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
4. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ระบุพฤติการณ์ที่สำคัญ คือลอยตัวหนีปัญหา เลือกปฏิบัติ บริหารราชการแผ่นดินไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภูมิปัญญา ไร้ความสามารถ เลือกปฏิบัติ ไม่ยึดหลักธรรมาภิบาล และพบการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถเข้ามาเพื่อแสวงหาประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้อง ในลักษณะแยกหน้าที่กันทำ ทุจริตในหน่วยงานที่กำกับ
“ละเลยให้มีการทุจริต ปกปิดข้อมูล ปกป้องการทุจริตและแสวงหาประโยชน์มิชอบ ใช้อำนาจไม่ซื่อสัตย์ ไม่เสียสละ ไม่เปิดเผย ไม่รอบคอบ ซึ่งการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และทำหน้าที่มิชอบทำให้หน่วยงานรัฐเสียหายและส่งผลกระทบต่อประชาชนและประเทศอย่างร้ายแรง” ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจส่วนของนายจุรินทร์ ระบุ
7. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ระบุพฤติการณ์ในญัตติว่า ปล่อยให้การแสวงหาประโยชน์จากผู้ใช้แรงงาน ไม่กำกับควบคุมผู้ใช้แรงงานต่างด้าวให้เป็นระบบ จนทำให้มีแรงงานผิดกฎหมายจำนวนมาก สร้างผลกระทบอย่างชัดเจนต่อการระบาดของโควิด-19 ขาดคุณธรรม และเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้นพบพฤติการณ์ใช้อำนาจเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตนและพวกพ้องสร้างความแตกแยกในสังคม ยุยงปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความเกลียดชังระหว่างผู้เห็นต่าง และเมิดนิติรัฐ
8.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ระบุพฤติการณ์ว่า บริหารราชการแผ่นดินที่เห็นแก่ประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนผูกขาด เพื่อให้ได้สิทธิดำเนินงานในกิจการของรัฐ โดยไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐ ทุจริตต่อหน้าที่และปล่อยให้หน่วยงานที่กำกับ สมคบปิดบังการทุจริต ไม่ยึดหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
10. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ระบุเนื้อหาที่สำคัญ ว่า ปกปิดข้อมูลความจริงซึ่งควรแจ้งหรือยื่นรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เข้าสู่ตำแหน่งโดยไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล กร่างเถื่อน และสร้างอิทธิพลให้กับบริวารและพวกพ้อง
“แต่งตั้งคู่สมรสที่อยู่กินฉันสามีภรรยาเป็นข้าราชการการเมือง โดยไม่คำนึงถึงวุฒิภาวะและความเหมาะสม ไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง”