คนไทย 77.68 % ระบุ สนใจรถยนต์ไฟฟ้า ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า เพราะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ดัชนีคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานครติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองของโลกที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานความปลอดภัยมาโดยตลอด สะท้อนถึงปัญหาจากวิกฤติการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งยังคงมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้างและระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น โดยกว่า 35% ของปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เกิดจากควันจากท่อไอเสียรถที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน จากรถยนต์ทั้งหมดในกรุงเทพมหานครที่มีจำนวนกว่า 10.9 ล้านคัน
ซึ่งหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหา PM2.5 ที่ประสบความสำเร็จในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก คือการออกนโยบายของภาครัฐและการให้การสนันสนุนการหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า อาทิ รัฐบาลจีนที่มีการออกนโยบายทั้งระยะสั้น ระยะยาว เช่น การตรวจสอบการปล่อยไอเสีย หรือการดึงดูดคนให้มาใช้ EV มากขึ้น ด้วยการลดภาษี หรือให้สิทธิพิเศษคนที่ใช้รถไฟฟ้า เป็นต้น ส่งผลให้จีนเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมการขับเคลื่อนใหม่ๆ ที่สามารถช่วยลดปัญหา PM2.5 ได้สำเร็จอย่างยั่งยืน
และจากปัญหาดังกล่าว ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ GWM สำรวจความคิดเห็นและพฤติกรรมการใช้ รถยนต์ของผู้บริโภคชาวไทยทั่วประเทศ ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Get to Know Thai Consumers
ซึ่งผลการสำรวจระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสนใจเกี่ยวกับรถยนต์รถยนต์ไฟฟ้า สูงถึง 77.68% โดยในจำนวนนี้ ให้เหตุผลว่า เป็นการช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 28.97 % มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย 26.88% และอีก 16.96% มองว่าจะช่วยประหยัดค่าบำรุงรักษาในระยะยาว