ท่องเที่ยว คือเครื่องยนต์หลักที่รัฐหมายหมั้นปั้นมือจะนำมาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หลังเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวกลุ่มพิเศษเข้าไทยไปแล้ว ส่วนการท่องเที่ยวในประเทศก็สำคัญยิ่งโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว จะพาไปดูว่าแหล่งท่องเที่ยวฮอตช่วงฤดูหนาวจะเป็นที่ไหนบ้าง มีรายได้ต่อปีเท่าไหร่
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตอนนี้ การท่องเที่ยว คือหัวเรือรบที่สำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นคืนชีพได้ แต่จะว่าไปแล้วถ้าหวังเพิ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเดียวก็เห็นทีจะลำบาก ด้วยการเดินทางที่ลำบากเพราะหลายประเทศยังไม่ให้คนเข้า-ออกง่าย ๆ ในขณะที่โควิด-19 ทั่วโลกก็ยังดูอาการน่าเป็นห่วง
ถึงแม้ว่าเมื่อเร็ว ๆนี้บ้านเราจะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวพิเศษกลุ่มแรกจากจีนเข้ามาแล้ว แต่ก็เป็นแค่กลุ่มเล็ก ๆ ที่ช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวได้ในระดับหนึ่ง หรือเป็นแค่เพียงโมเดลหนูทดลองเท่านั้น ถ้าในอนาคตดีจริง และไม่นำโรคระบาดระลอกใหม่เข้าไทยอีก ก็คงจะมีโอกาสขยายโมเดลนี้รับประเทศอื่น ๆ ให้เข้ามาเที่ยวไทยได้ตามเงื่อนไขที่ไทยกำหนด
ส่วนการท่องเที่ยวกันเองในประเทศก็สำคัญไม่น้อย เพราะช่วงนี้เข้าสู่ฤดูแห่งการท่องเที่ยวแล้ว หรือที่เรียกติดปากว่า ช่วงไฮซีซัน ทั้งนี้ล่าสุดวันนี้ 22 ตุลาคม 2563กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกมาประเทศว่าประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว ในขณะเดียวกันหลายจังหวัดเริ่มมีลมหนาวมาเยือนแล้ว แต่คงจะหนีไม่พ้นคนแห่ไปเที่ยวภาคเหนือ อีสาน ไปกางเต้นท์ นั่งดูทะเลหมอก หยิบหมอกหยอกดาว กินหมูกระทะ ลองคิดดูสิจะฟินแค่ไหนที่ได้สัมผัสแรกแห่งเหมันต์ฤดู
ส่วนจังหวัดไหนที่จะเป็นเดสติเนชั่นสุดฮอตของการท่องเที่ยวหน้าหนาวนั้น วันนี้ “สปริงนิวส์ออนไลน์” จะมาเล่าให้ฟังถึงเรื่องท่องเที่ยวที่ปังปุริเย่แบบสุด ๆ มาเริ่มกันที่จังหวัดแรกหนีไม่พ้นเชียงใหม่ ไม่ว่าปีไหน ๆ คนก็ไปเชียงใหม่ เที่ยวเขาเที่ยวดอย วัดวาอารม เก็บสตอเบอรี่สุดแสนสนุก โดยเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสปีหนึ่งประมาณ10.3 ล้านคน สร้างรายได้ 102,300 ล้านบาท
อีกที่ยังหนีไม่พ้นภาคเหนือ คือ จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือ ภูทับเบิก เขาค้อ นักท่องเที่ยวนิยมไปกางเต้นท์ จิบกาแฟ แลหมอก ชมสวนกระหล่ำปลีก สัมผัสทะเลหมอกทำให้ที่แห่งนี้ฮอตฮิตทะลุโซเซียลกันรัว ๆ
ส่วนอีกหนึ่งจังหวัดน้องใหม่ไฟแรงที่เพิ่งแจ้งเกิดมาไม่นาน นั่นคือ นันทบุรีศรีนครน่าน ดินแดนเห็นความเงียบสงบ ธรรมชาติน่ายล ผู้คนน่ารัก ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศให้สักครั้งหนึ่งในชีวิตได้ข้ามห้วยไปมาสัมผัสสักครั้ง แอ่วดอยภูคา ดอนเสมอดาว ผาชู้ ขุนสถาน บ่อเกลือ วัดวางามยิ่ง คือสิ่งที่มาน่านแล้วจะได้บรรยากาศ โดยปีหนึ่งน่านจะมีนักท่องเที่ยวไปเยือนประมาณ 6-7 ล้านคน รายได้ 17,00-2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ถัดลงมาอีกนิดหนึ่ง คือ จ.พิษณุโลก ก็มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เช่น ภูหินร่องกล้า ที่คลื่นมวลชนจำนวนมากมักไปสัมผัสหมอก ดอกไม้ สวยงามรับลมหนาว ในปีหนึ่งๆ เมืองสองแควแห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวประมาณ 3-4 ล้านคน รายได้ 1,000-2,000 ล้านบาท
มาต่อกันที่เมืองดอกบัวตอง แม่ฮ่องสอน ใครๆ ก็นึกถึงปาย แม้จะแจ้งเกิดมานานแล้ว แต่ทุกวันนี้หน้าหนาวทีไรก็ยังมีคนไปเที่ยวเหมือนนเคย มีนักท่องเที่ยวปีหนึ่งประมาณ 1-2 แสนคน รายได้ 790-1,000 ล้านบาท
.ปิดท้ายกันที่ลมพัดตึ้งก้ำภูกระดึงเขตเมืองเลย จังหวัดนี้มีที่ท่องเที่ยวมากมาย แต่ผู้คนมักจะไปขึ้นภูกระดึงกันแบบเดินทาง แล้วไปกางเต้นท์ ทำอาหารกินกันสุดชิลล์ เชื่อมโยงไปพื้นอื่น ๆ ในภาคอีสานเที่ยวได้ทุกจังหวัด โดย จ.เลย มีนักท่องเที่ยว 2.5 -3 ล้านคน รายได้ 43,000-5,000 ล้านบาท
หนาวนี้กอดใคร หนาวไหนกอดเธอ ไม่ว่าจะหนาวกายหนาวใจยังไงก็อย่าลืมไปเที่ยวรับลมหนาวกันนะ เพราะวันนี้ประเทศไทยยังต้องการการกระตุ้นท่องเที่ยวแบบใช้ยาแรงให้ฟื้นคืนชีพ