วันที่ 9 ม.ค.61 หลังจากที่วานนี้ ( 8 ม.ค.) นุสบา ปุณณกันต์ นักแสดงชื่อดัง โพสต์อินสตาแกรมเตือนว่า ขณะนี้โรคท้องเสียกำลังระบาดจาก เชื้อไวรัสโรต้า ทำให้มีการอาการท้องเสียถ่ายเหลวรุนแรงมากหลายครั้ง มีอาเจียนร่วมด้วย รวมทั้งมีไข้และปวดท้อง เสียน้ำและเกลือแร่กว่าจะหายใช้เวลา5-10 วัน สัมผัสเชื้อได้ทั่วไปโดยที่เราไม่รู้ตัว อาจล้างมือไม่สะอาด ได้รับเชื้อโดยสัมผัสวัตถุปนเปื้อนหรือบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่ติดเชื้อ หมอบอกว่า ไม่มียาแก้ท้องเสียตัวนี้ ต้องให้น้ำเกลือ ยาฆ่าเชื้อ อุจจาระถ่ายออกมาเรื่อยๆจนกว่ามันจะหยุดเอง ป้องกันโดยล้างมือให้สะอาดบ่อยๆนะคะ อันตรายมากๆค่ะ ติดต่อทางสัมผัส อาหารปนเปื้อน ไม่สะอาด ดูแลสุขภาพนะคะ นุสร่วงไปคนหนึ่งแล้ว
ด้าน นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค เตือนผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กเล็ก เพราะอาจป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า ทั้งนี้ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย โดย 3 ใน 4 ราย เป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี สำหรับไวรัสโรต้า เป็นสาเหตุอันดับต้น ที่ทำให้เกิดอาการอาเจียนและท้องร่วงรุนแรง เสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดน้ำมากที่สุด พบมากที่สุดในเด็กอายุ 7-12 เดือน และมักพบผู้ป่วยโรคนี้มากในช่วงเดือนที่มีอากาศแห้งและค่อนข้างเย็น หรือ ช่วงเดือน พ.ย. – ม.ค.
โดยเด็ก ๆ จะติดเชื้อได้ง่ายมาก เพราะจะแฝงตัวอยู่ตามสิ่งของ เช่น ของเล่นเด็ก และสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานหลายชั่วโมง อยู่ได้นานเป็นวันๆ ซึ่งหากลูกน้อยนำสิ่งของหรือมือที่เปื้อนเชื้อโรคเข้าทางปาก จะทำให้รับเชื้อไวรัสนี้เข้าไปได้อย่างง่ายดาย
ส่วนอาการหลังจากติดเชื้อไวรัส ประมาณ 1-2 วัน จะมีอาการเริ่มต้นด้วยการมีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน กรณีที่อาการไม่รุนแรง อาการไข้และอาเจียนมักจะหายได้เองภายใน 2-3 วัน แต่อาการที่พบได้บ่อยคือ อาการปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำหรือถ่ายเป็นฟองหลายๆ หน บางคนอาจมีน้ำมูกไหลและไอร่วมด้วย อาการท้องเสียอาจเป็นนานได้ถึง 7-10 วัน
ทั้งนี้ แพทย์แนะนำว่า ปัจจุบันยังไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสโรต้า ดังนั้นผู้ปกครองควรดูแลอาการป่วยของบุตรหลานในเบื้องต้น ด้วยการงดให้นมในขณะที่เด็กเริ่มมีอาการอาเจียน ควรให้น้ำเกลือแร่ทีละนิดทีละน้อย ถ้ายังมีอาเจียน ควรพามาพบแพทย์ทันที ถ้ามีอาการขาดสารน้ำและเกลือแร่ แพทย์มักจำเป็นต้องรับไว้ในโรงพยาบาล เพื่อให้สารน้ำและเกลือแร่ทางเส้นเลือดดำ
นอกจากนี้ วิธีป้องกันไม่ให้เด็กติดเชื้อไวรัสโรต้า คือ หมั่นล้างมือบ่อยๆ รักษาสุขอนามัยของสมาชิกในบ้าน และบริเวณที่ลูกหลานชอบเล่น รวมถึงหมั่นล้างของเล่นเสมอๆ การเตรียมอาหารของลูกน้อยให้สุก สะอาด ถูกสุขลักษณะ โดยการผ่านความร้อน
ขณะทีการให้เด็กดื่มนมแม่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้ในระดับหนึ่ง และปัจจุบัน มีวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าชนิดกิน ซึ่งเป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง มีความปลอดภัยสูง ใช้ได้อย่างสะดวก ช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้