ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ชาวเชียงรายพบ "พระขรรค์ทอง" สมัยอาณาจักรโยนกนาคพันธุ์อายุนับพันปี ภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัดป่าหมากหน่อ ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นสถานที่เก็บวัตถุโบราณต่างๆ จำนวนมากที่ชาวบ้านเก็บได้จากจุดต่างๆ ภายในหนองน้ำที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "เวียงหนองหล่ม" ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโยนกนาคพันธุ์หรือเชียงแสนโบราณที่มีอายุกว่า 1,000 ปี และล่มสลายลงตามตำนานชาวเมืองกินปลาไหลเผือกแล้วทำให้เมืองล่มสลายกลายเป็นหนองน้ำกว้าง ปัจจุบันมีศาลแม่บัวเขียวซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแม่หม้ายที่ไม่กินปลาไหลแล้วรอดชีวิตอยู่เพียงคนเดียวด้วย โดยมีวัดตั้งอยู่ตรงกลางโดยมีสภาพเป็นเกาะ
ทั้งนี้ภายในวัดมีชาวบ้านเก็บวัตถุโบราณได้แล้วนำไปเก็บไว้จำนวนมาก โดยหนึ่งนั้นเป็น "พระขรรค์" หรือดาบพร้อมฝักที่มีความงดงามจำนวน 1 เล่มที่มีความโดดเด่นมากกว่าวัตถุชิ้นอื่นๆ ปัจจุบันพระมหาชัยนันต์ โชติปัญโญ เจ้าอาวาสวัดป่าหมากหน่อ ได้นำวัตถุโบราณดังกล่าวทั้งหมดเก็บเอาไว้ภายในห้องเก็บของภายในกุฏิ โดยมีประตูเข้าออกด้านหน้า 2 ประตูแน่นหนา และภายในยังมีประตูกรงเฉพาะห้องเก็บของเพื่อวางวัตถุต่างๆ
สำหรับพระขรรค์จะเก็บเอาไว้ในกรงเหล็กอีกชั้นเป็นการเฉพาะโดยมีการติดกุญแจเอาไว้หลายอันด้วย เนื่องจากวัตถุต่างๆ ดังกล่าวทางพระมหาชัยนันต์และชาวบ้านระบุว่าเก็บได้จากภายในหนองน้ำที่เป็นเมืองเก่าดังกล่าว รวมทั้งรูปทรงก็ผิดแผกแตกต่างจากวัตถุหรือแม้แต่ดาบและมีดอื่นๆ ที่ชาวบ้านเก็บได้โดยมีฝักและด้ามสีทองทำจากโลหะไม่ทราบชนิด รวมทั้งมีอัญมณีหลากหลายสีฝังลงในฝักและด้ามดังกล่าวอีกด้วย จึงเชื่อกันว่าอาจจะเป็นของบุคคลชั้นสูงที่เคยครองแผ่นดินอาณาจักรโยนกนาคพันธุ์ในอดีต
พระมหาชัยนันต์ กล่าวว่า วัตถุโบราณต่างๆ ทั้งหมดชาวบ้านและเจ้าอาวาสคนก่อนๆ ช่วยกันเก็บรักษาเอาไว้โดยได้มาอย่างหลากหลายเพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นเกาะกลางน้ำตั้งอยู่ในที่ห่างไกลชุมชน นอกหนองน้ำออกไปยังรายล้อมด้วยภูเขาและต้นไม้หนาแน่น ในอดีตก่อนที่ตนจะเป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่งนี้ชาวบ้านก็มีการออกหาปลาหรือทำประมงกันภายในหนองน้ำดังกล่าว บ้างก็ลงไปในน้ำเพื่อวางเบ็ดแล้วไปพบวัตถุภายในหนอง บ้างก็ทอดแหได้ บ้างก็พบวางอยู่ริมฝั่ง ฯลฯ เมื่อได้แล้วส่วนใหญ่ก็นำมาเก็บเอาไว้ที่วัดเพราะเชื่อว่าเป็นของโบราณหากเก็บเอาไว้จะไม่ดีกับตัวเอง
พระมหาชัยนันต์ กล่าวอีกว่า เมื่อมีการนำไปให้ไว้ที่วัดทางวัดจึงเก็บรักษาเอาไว้จนเมื่อหลายปีก่อนก็มีผู้พบพระขรรค์อันนี้เข้า ก็นำมาเก็บไว้ที่วัดเช่นกันและทางวัดเห็นว่าไม่เหมือนวัตถุอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นถ้วย ชาม กระเบื้อง ไม้แกะสลักที่มีรูปทรงแปลกๆ หรือของใช้อื่นๆ แต่เป็นพระขรรค์หรือดาบที่ใช้โลหะสวยงามและมีอัญมณีประดับด้วยจึงได้เก็บเอาไว้ดีกว่าชิ้นอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรก็เคยเข้าไปติดต่อด้วยแล้วขอศึกษาอย่างละเอียด เพื่อจะได้จดทะเบียนเอาไว้แต่ทางวัดเกรงว่าจะมีการนำเอาไปไว้ที่อื่นนอกเวียงหนองหล่มแห่งนี้ จึงได้ชะลอเอาไว้ก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งมาว่าเมื่อจดทะเบียนก็ยังให้เก็บเอาไว้ที่วัดตามเดิมแต่เมื่อไปตรวจดูก็ต้องให้อยู่ ณ จุดเดิมแต่ท้ายที่สุดทางวัดก็ขอปรึกษากับชาวบ้านก่อนทำให้เรื่องราวยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นในการจัดพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปปางมหาจักรพรรดิ์ของวัดในวันที่ 18-19 ธ.ค.นี้ ทางวัดจะนำพระขรรค์ดังกล่าว ร่วมในพิธีด้วยเพราะเชื่อกันว่าด้วยรูปทรงและลักษณะน่าจะเป็นของสำหรับเจ้านายชั้นสูง ซึ่งตามตำนานก็บอกว่าอาณาจักรโยนกนาคพันธุ์แห่งนี้มีกษัตริย์ถึง 46 พระองค์ จึงน่าจะเป็นของหนึ่งในนั้นนั่นเอง