svasdssvasds

รู้หรือไม่!! ถ้าเกิด "ตุ่มใสๆ" ขึ้นบนมือ บนเท้า อย่าชะล่าใจ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางอย่าง!?

รู้หรือไม่!! ถ้าเกิด "ตุ่มใสๆ" ขึ้นบนมือ บนเท้า อย่าชะล่าใจ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางอย่าง!?

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

เชื่อว่าทุกคนไม่มีใครอยากจะป่วยกันหรอก ยิ่งถ้าป่วยหนักยิ่งไม่อยากเป็นกันเข้าไปใหญ่เพราะอาจจะต้องหยุดงาน หยุดเรียนเพื่อไปหาหมอ แต่ถ้าป่วยแบบเบาๆ เช่นปวดหัว เป็นหวัด เป็นไข้ ก็แค่ซื้อยามากิน แต่รู้กันไหมว่า อาการบางอย่างที่เราคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาไม่มีอะไร แต่มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคภัยที่เรากำลังเป็น

ตุ่มน้ำใสๆ ที่เกิดขึ้นตามนิ้วมือ นิ้วเท้าของเรา หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติก็แค่อาการแพ้อะไรสักอย่างธรรมดา แต่รู้กันไหมว่าไอ้เจ้าตุ่มน้ำใสๆ นี่แหละเป็นสัญญาณเตือว่าตัวเรากำลังป่วยควรหันกลับมาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองได้แล้ว

รู้หรือไม่!! ถ้าเกิด \"ตุ่มใสๆ\" ขึ้นบนมือ บนเท้า อย่าชะล่าใจ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางอย่าง!?

Dyshidrotic Eczema คือมีตุ่มน้ำใสขึ้นที่มือ หรือเท้า บางครั้งมีอาการปวดแสบ หรือคัน ก่อนที่ผื่นจะขึ้นคนที่เป็นบ่อย ๆ จะมีอาการเดือนละครั้ง บางคนจะมีอาจจะมีอาการปีละครั้ง ลักษณะผื่นที่พบคือ เป็นตุ่มน้ำใส ขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตรหรือเล็กกว่า ที่ปลายนิ้ว ด้านข้างของนิ้ว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ตุ่มน้ำนี้มักจะหนา ๆ และอยู่ลึก ๆ ที่ผิวจะแดง ๆ หรือบวมขึ้นเล็กน้อย บางครั้งตุ่มน้ำเล็ก ๆ เหล่านี้จะมารวมกันเป็นตุ่มที่ใหญ่ขึ้น อาการคัน หรือเจ็บ จะแย่ลงเมื่อถูกน้ำหรือถูกสบุ่หรือสารเคมีอื่น ๆ หากเกาผื่นแรง ๆ ตุ่มน้ำจะแตกออก และมีของเหลวไหลออกมา ทำให้ผิวหนังหนา ๆ แข็ง ๆ และแตกง่าย และจะใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนกว่าจะหาย Dyshidrotic Eczema เป็นหนึ่งภาวะการแพ้ของผิวหนัง อาการที่เป็นคือพบเป็นผื่นที่ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือด้านข้างของนิ้ว คำว่า dyshidrotic มีความหมายว่า เหงื่อที่ไม่ดี ตุ่มน้ำเล็ก ๆ ที่ขึ้นนี้จะมีอาการคันมาก และมักจะเป็นด้านข้าง ๆ ของนิ้วมือและเท้า ตอนแรกจะเห็นเป็นจุดเล็ก ๆ ขึ้นต่อมาก็จะรวมกันหลาย ๆ เม็ด กลายเป็นผื่นขึ้น บ่อยครั้งที่ตุ่มน้ำจะแตก และมีน้ำเหลืองไหลออกมา โอกาสที่จะกลับมาเป็นอีกพบได้ค่อนข้างบ่อย อาการผื่นที่เรียกว่า eczema เป็นรูปแบบหนึ่งของผิวหนังอักเสบ ของชั้นบนของผิวหนัง และมักจะเป็นผื่นที่มีอาการเรื้อรัง มีการแดง บวม คัน และผิวหนังแห้ง บางครั้งจะมีสะเก็ด แตก หรือมีน้ำเหลืองไหลออกมาด้วย รูปแบบที่พบบ่อยที่สุดของ Eczema เรียกว่า atopic eczema ซึ่งอาจจะมีสาเหตุจากพันธุกรรม อีกแบบคือ contact dermatitis ซึ่งเกิดจากการระคายเคืองจากสารเคมีหรือสารอื่น โรคผิวหนังเหล่่านี้จะไม่ติดต่อกัน และสามารถรักษาให้หายขาดได้

รู้หรือไม่!! ถ้าเกิด \"ตุ่มใสๆ\" ขึ้นบนมือ บนเท้า อย่าชะล่าใจ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางอย่าง!?

 

ปัจจัยเสี่ยงทำให้มีอาการได้แก่

– ความเครียด

– ประวัติในครอบครัว

– การทำงานบางอย่างที่ต้องสัมผัสสารเคมี

– การสัมผัสกับโลหะบางชนิด

– การทำงานเกี่ยวกับจิวเวอรี่

– การได้รับยาที่กดภูมิคุ้มกันของร่างกาย

การรักษา

– การใช้ ครีม steroid ยาที่ใช้จะเป็นครีมหรือขี้ผึ้งค่อนข้างแรง (High-potency) เพื่อช่วยให้หายเริ่มขึ้น และลดตุ่มน้ำใสที่เกิดขึ้น และลดการเกิดรอยแตกหลังจากที่ตุ่มน้ำแตกไปแล้ว แต่ถ้าคนที่เป็นมากอาจจะต้องใช้ชนิดรับประทาน

– การประคบด้วยน้ำเย็น หรือความเย็น จะช่วยลดอาการคันได้ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีม steroid ทั้งยังลดตุ่มน้าได้ด้วย

– การใช้ยาแก้แพ้แก้คัน เช่น zyrtec atarac ในคนที่มีอาการคันมาก

– การฉายแสง UV ที่เรียกว่า psoralen plus ultraviolet A (PUVA)

– การใช้ครีมที่กดภูมิต้านทาน Immune-suppressing ointments เช่นยา tacrolimus (Protopic) and pimecrolimus (Elidel) อาจจะเป็นอีกทางเลือกหากวิธีข้างต้นไม่ได้ผล แต่อาจจะมีผลข้างเคียงที่ทำให้ติดเชื้อที่ผิวหนังได้

– การฉีด Botulinum toxin injections แพทย์บางท่านอาจจะแนะนำใ้หฉีด Botulinum toxin ในรายที่มีอาการรุนแรง แต่เป็นวิธีการรักษาที่อาจจะยังไม่แพร่หลาย และยังไม่ได้การยอมรับเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

– เราสามารถป้องกัน Dyshidrotic eczema ได้โดย

– หลีกเลี่ยงเหงื่อที่มากเกินไป

– อย่าล้างมือด้วยสบู่บ่อยเกินไป ทาโลชั่นหลังล้างมือทุกครั้ง

– ระวังอย่าให้มือและเท้าแห้งเกินไป

– หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี โลหะ หรือ จิวเวลรี่

– ไม่ควรล้างมือด้วยสบู่บ่อยเกินไป

– อาบน้ำด้วยสบู่อ่อน ๆ และล้างสบู่ออกให้สะอาด

– พยายามให้เท้าไม่อับชื้นเกินไป

– ถ้าหากจำเป็นต้องสัมผัสกับสารเคมีอาจจะใส่ถุงมือ

– พยายามระวังเรื่องความเครียด

บ่อยครั้งที่ไม่สามารถหาสาเหตุที่ชัดเจนที่ทำให้เกิดผื่นเหล่านี้ แต่ที่พบได้บ่อยก็คือมีโรคผิวหนังอักเสบในครอบครัว ก่อนที่จะมีอาการจะได้ประวัติว่ามีการสัมผัสกับสารเคมีบางชนิด เช่น นิเกิล โคบอล หรือโลหะบางอย่าง ปัจจัยอย่างอย่างที่มีส่วนเกี่ยวข้องบ่อย ๆ ก็คือเรื่องของความเครียด เรื่องสิ่งแวดล้อมเช่นอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงมาก ๆ การสูบบุหรี่ และการดื่มกาแฟ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้กระตุ้นให้มีอาการได้ หลายคนเริ่มมีอาการหลังจากการติดเชื้อรา ที่ผิวหนังหรือที่เล็บ

 

ขอบคุณ RAMA CHANNEL

related