เมื่อคนทั่วไปเริ่มด้อยค่าจบปริญญาตรี แต่คนดังยังมองสำคัญ ?

การศึกษาและใบปริญญามักถูกยกย่องให้เป็นบันไดสู่ความสำเร็จ คนที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับและเชิดชูว่าเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และมีโอกาสก้าวหน้าในชีวิตมากกว่าผู้ที่ไม่มีใบปริญญา ค่านิยมนี้หยั่งรากลึกมาตั้งแต่อดีต จนกลายเป็นความเชื่อว่า "การเรียนดี = อนาคตดี" เสมอ

แต่เมื่อโลกปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตได้เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถสร้างความสำเร็จและมีรายได้มหาศาลโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยปริญญาเหมือนในอดีต ซึ่งนำไปสู่แนวคิดสุดโต่งที่เริ่มด้อยค่าผู้ที่เรียนจบปริญญา ดั่งที่ปรากฏเป็นดราม่าอยู่บ่อยครั้งในโลกโซเชียล

อย่างไรก็ตาม ถึงประเด็นนี้จะเถียงกันได้ไม่รู้จบ ทว่าแม้แต่คนรวยระดับโลกที่ไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัย อย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก และ บิล เกตส์ ก็ยังเห็นความสำคัญของการศึกษา พวกเขาไม่เคยปฏิเสธคุณค่าของการเรียนรู้ และยังลงทุนมหาศาลเพื่อสนับสนุนระบบการศึกษาให้กับผู้คน

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กลับมารับปริญญาตอนอายุ 33 

ซัคเคอร์เบิร์ก เริ่มพัฒนา Facebook ขณะเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในปี 2004 และสุดท้ายต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยในปี 2005 เพื่อที่จะได้พัฒนา Facebook เต็มที่ ตอนแรกแพลตฟอร์มนี้เป็นแค่สังคมออนไลน์สำหรับนักศึกษา แต่ภายหลังเติบโตจนเป็นหนึ่งในโซเชียลมีเดียที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก

แต่หลังทิ้งการเรียนเพื่อไปเป็นมหาเศรษฐี ในปี 2017 ซัคเคอร์เบิร์กหวนกลับสู่ฮาร์วาร์ด เพื่อรับ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แม้เป็นปริญญาที่ไม่ต้องเรียนจบก็รับได้ เพราะเป็นการเชิดชูความดีของบุคคล 

ซัคเคอร์เบิร์ก ได้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสำเร็จการศึกษาต่อบัณฑิตที่กำลังจะเข้าสู้ตลาดแรงงานโดยมีใจความสำคัญว่า ให้ทุกคนมี "เป้าหมายในชีวิต” พร้อมทั้งบอกว่าโลกมันไม่ยุติธรรมที่ทำให้หลายคนเข้าไม่ถึงการศึกษา

ซัคเคอร์เบิร์ก มีองค์กรที่ชื่อว่า Chan Zuckerberg Initiative มุ่งช่วยให้ผู้คนเข้าถึงการศึกษาได้มากขึ้น เป็นสัญลักษณ์ว่า เขายังให้ความเคารพต่อระบบการศึกษาอยู่

'บิลเกตส์' อยากกลับไปเรียนให้จบ 

อีกคนหนึ่งที่ต้องออกจากฮาร์วาร์ดโดยไม่มีใบปริญญาเหมือนกันคือ ‘บิลเกตส์’ ที่ตัดสินใจลาออกจากการเรียน เพื่อก่อตั้งบริษัท Microsoft ที่ทุกวันนี้เติบโตอย่างรวดเร็วจนเป็น Windows ที่เราใช้กันในปัจจุบัน

แม้จะไม่ได้จบปริญญา แต่เขาได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากฮาร์วาร์ด ในปี 2007 และไม่นานมานี้เขาก็เพิ่งเปิดเผยว่า เขารู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในปี 1975 เขาหลงใหลในบรรยากาศการเรียนรู้ของฮาร์วาร์ด ชื่นชอบการศึกษาในวิชาต่าง ๆ เช่น จิตวิทยา เศรษฐศาสตร์ และประวัติศาสตร์ รวมถึงช่วงเวลาที่ได้คุยกับเพื่อนจนดึกดื่น และยังบอกอีกว่า ตนเองไม่อยากเป็นไอดอลของคำว่า “เรียนไม่จบก็ประสบความสำเร็จได้”

บิลเกตส์มีมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation เพื่อช่วยให้ชาวสหรัฐฯ เข้าถึงการศึกษาได้มากขึ้น เช่นเดียวกับ ซัคเคอร์เบิร์ก

การเรียนรู้ตลอดชีวิตคือเรื่องสำคัญที่สุด 

แม้ทั้ง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก และ บิล เกตส์ จะเลือกเส้นทางที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ด้วยการลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อสร้างอาณาจักรธุรกิจของตัวเอง แต่พวกเขาไม่เคยมองข้ามหรือด้อยค่าความสำคัญของการศึกษา ตรงกันข้าม ทั้งสองกลับตระหนักดีว่าการศึกษาให้อะไรมากกว่าปริญญา มันเป็นรากฐานของการพัฒนาความรู้ และโอกาสในชีวิต

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเข้าใจข้อบกพร่องของระบบการศึกษา และพยายามช่วยให้มันดีขึ้น เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน

สิ่งสำคัญ ‘คือการเรียนรู้ตลอดชีวิต’ ไม่ว่าคุณจะเลือกอยู่ในรั้วการศึกษา หรือไม่อยู่ในนั้นก็ตาม 

ที่มา : cnbc/taladpanya

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• ผลการศึกษาเผยว่าผู้ชายชอบเรื่องโรแมนติกมากกว่าผู้หญิง ! 
• แต่ละช่วงชีวิต เรามีเพื่อนกี่คนโดยเฉลี่ย มิตรภาพแต่ละวัยเป็นอย่างไร ? 
• เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ สาวน้อยที่ไม่มีใครสนใจ มีแต่ความตายที่ปลดปล่อยเธอ