อาการซึมเศร้าช่วงปลายฤดูหนาว ทำไมช่วงอากาศอุ่นขึ้นถึงเศร้าหนักเป็นพิเศษ
รู้จักโรคซึมเศร้าช่วงปลายฤดูหนาว เดือนมีนาคม และพฤษภาคม เดือนเมษายน อาจเป็นเดือนที่เลวร้ายทางอารมณ์มากกว่าที่คิด
SHORT CUT
- ปัจจัยแรก ช่วงกลางวันกลับมายาวนานขึ้น ทำให้ผู้คนต้องใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นในตอนกลางวัน
- อีกปัจจัยหนึ่งมาจากโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram ที่มักเต็มไปด้วยภาพของผู้คนสังสรรค์และมีความสุขในช่วงอากาศแจ่มใส
- การรักษากิจวัตรประจำวันให้สมดุล รับประทานอาหารและนอนหลับอย่างเหมาะสม คือกุญแจสำคัญในการเอาชนะโรคซึมเศร้าตามฤดูกาลได้
รู้จักโรคซึมเศร้าช่วงปลายฤดูหนาว เดือนมีนาคม และพฤษภาคม เดือนเมษายน อาจเป็นเดือนที่เลวร้ายทางอารมณ์มากกว่าที่คิด
หลายคนมักเป็น SEASONAL AFFECTIVE DISORDER (SAD) หรือ ภาวะซึมเศร้าที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของปี โดยมักเกิดในฤดูหนาวเมื่อมีแสงแดดลดลง แต่บางคนอาจเกิดในฤดูร้อนหรือฤดูฝนได้เช่นกัน
แม้ฤดูหนาวจะถูกมองว่าเศร้าที่สุด แต่มีอีกฤดูที่อาการซึมเศร้ารุนแรงเช่นกัน นั่นคือ ‘อาการซึมเศร้าในฤดูใบไม้ผลิ’ ที่คนเมืองหนาวเป็นกัน เพราะการเปลี่ยนแปลงจากอากาศเย็นไปสู่อากาศอุ่นขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม อาจทำให้คนเสียสุขภาพจิตเมื่อต้องใช้ชีวิตไปข้างหน้า
ปัจจัยแรก ช่วงกลางวันกลับมายาวนานขึ้น ทำให้ผู้คนต้องใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นในตอนกลางวัน งานวิจัยที่ชื่อ ‘Mood Worsening on Days with High Pollen Counts is associated with a Summer Pattern of Seasonality’ เผยว่า ชาวสหรัฐฯ 1,300 มี อารมณ์แย่ลงในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน แต่กลับอารมณ์ปกติในฤดูหนาว
.
อีกปัจจัยหนึ่งมาจากโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram ที่มักเต็มไปด้วยภาพของผู้คนสังสรรค์และมีความสุขในช่วงอากาศแจ่มใส ซึ่งถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นก็ดีไป แต่ถ้าคุณไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นเหมือนคนที่เห็นในโซเชียลมีเดียสัญชาตญาณจะทำให้เกิดการเปรียบเทียบ และ อาจจะขยายความรู้สึกแย่ในใจขึ้นได้
ยิ่งไปกว่านั้นอาการอาจรุนแรง เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน เพราะฤดูร้อนมีค่านิยมต้องใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ เป็นช่วงแห่งการพักผ่อน ผู้คนมักคาดหวังความสุขในช่วงนี้ ทำให้เราจะกดดันตัวเองให้มีความสุขเหมือนคนอื่นไปด้วย
ส่วนประเทศไทยที่ไม่มีฤดูใบไม้ผลิแบบชัดเจน แต่ในช่วงปลายฤดูหนาวหรือช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูร้อน เราก็สามารถพบเห็นอาการซึมเศร้า (Summer depression) ได้ โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาที่ต้องกลับมาทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การเรียนหรือการทำงาน หลายคนอาจรู้สึกเครียดจากการปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงของอากาศและต้องกลับมาพยายามสนุกกับชีวิตเหมือนคนอื่นๆ ที่เห็นในโซเชียลมีเดีย
ช่วงเวลานี้อาจทำให้เกิดความรู้สึกเปรียบเทียบและกดดันตัวเองเพิ่มขึ้น เนื่องจากการตั้งความคาดหวังว่าจะต้องมีชีวิตที่ดีและเต็มไปด้วยความสุข ทั้งที่ในความเป็นจริงเราอาจรู้สึกอ่อนล้าหรือไม่สามารถตามทันสิ่งเหล่านั้นได้ ทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าและไม่พอใจในตัวเองมากขึ้น
แต่ไม่ว่าจะเกิดความเศร้าในฤดูกาลไหนก็ตาม การรักษากิจวัตรประจำวันให้สมดุล รับประทานอาหารและนอนหลับอย่างเหมาะสม คือกุญแจสำคัญในการเอาชนะโรคซึมเศร้าตามฤดูกาลได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
