svasdssvasds

#AprilFools'Day ว่าด้วยทำไมคนเรา ถึงยังหลอกตัวเองว่า "ยังไหว"

#AprilFools'Day ว่าด้วยทำไมคนเรา ถึงยังหลอกตัวเองว่า "ยังไหว"

เมษาหน้าโง่วนมาแล้ว หรือเรียกอีกอย่างว่าวัน April Fools'Day อีกหนึ่งอีเวนท์แห่งความ "ปลิ้นปล้อน" ที่ระวังจะเจอแกล้งแบบคาดไม่ถึง

SHORT CUT

  • ต้อนรับ April Fools'Day ต้องบอกก่อนว่าชีวิตของคนเรานั้น มีขึ้นมีลงตามธรรมชาติ มีเรื่องดีและเรื่องร้ายปะปนกันไป 
  • แต่ในทางนี้นั้นคนส่วนใหญ่ยอมรับได้ แต่คนบางกลุ่มกลับยอมรับไม่ได้ และยังหลอกตัวเองอยู่เรื่อยๆ เช่น ด้านการทำงาน ความรัก การใช้ชีวิตทั่วไป เป็นต้น
  • ไม่มีความรู้สึกไหนจะคงอยู่กับเราตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความเสียใจ หรือความสุข ทุกอย่างล้วนเข้ามาและก็จากไปเสมอ เพราะฉะนั้น หยุดหลอกตัวเองว่ายังไหวได้แล้ว
     

เมษาหน้าโง่วนมาแล้ว หรือเรียกอีกอย่างว่าวัน April Fools'Day อีกหนึ่งอีเวนท์แห่งความ "ปลิ้นปล้อน" ที่ระวังจะเจอแกล้งแบบคาดไม่ถึง

ต้อนรับ April Fools'Day

ต้องบอกก่อนว่าชีวิตของคนเรานั้น มีขึ้นมีลงตามธรรมชาติ มีเรื่องดีและเรื่องร้ายปะปนกันไป แต่ในทางนี้นั้นคนส่วนใหญ่ยอมรับได้ แต่คนบางกลุ่มกลับยอมรับไม่ได้ และยังหลอกตัวเองอยู่เรื่อยๆไม่ว่าจะเป็น ด้านการทำงาน ความรัก หรืออะไรก็ตามที่เรียกว่า การใช้ชีวิต เพราะทุกครั้งที่เริ่มรู้สึกว่า ชีวิตของเรากำลังจะควบคุมไม่ได้แล้ว เราก็ยังพยายามบอกตัวเองอยู่เสมอว่ายังไหว ด้วยคำพูดทำนองว่า "เดี๋ยวมันก็ผ่านไป" และเก็บซ่อนความรู้สึกแย่ๆเอาไว้ข้างใน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเราฝืนความรู้สึกตัวเองไปมากขนาดไหน

โดนคนอื่นหลอกแล้วอย่าหลอกตัวเองเลย

บางทีแล้ว เราอาจจะหมดความอดทนกับการทำแบบนี้ไปเรื่อยๆก็ได้ เพราะต้องยองรับความจริงและเดินหน้าต่อไปได้แล้วและควรปล่อยให้ความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ภายในได้ระบายออกมาบ้าง

ในทฤษฎีทางจิตวิทยานั้น Dr. Jaime Zuckerman นักจิตวิทยาบำบัดชื่อดัง ได้นิยามถึงการพยายามหลอกตัวเองว่ายังไหว ทั้งๆ ที่จริงแล้วตรงกันข้าม ด้วยคำว่า "Toxic Positivity" หรือก็คือ การที่คนหนึ่งๆ กำลังรู้สึกเจ็บปวดหรือเจอปัญหาอุปสรรคในชีวิตอย่างหนัก แต่พยายามมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ จนกระทั่งสูญเสียการรับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเองข้างในไป

แต่ถึงอย่างไร การที่รู้สึกว่า ตัวเองต้องแบกรับอะไรที่ถาโถมมามากมายนั้น มันไม่แปลกเลย ที่จะทำให้เรารู้สึกเครียด หรือ กังวล จนบางทีก็นอนไม่หลับ แต่อย่าลืมว่า คนเราทุกคนมีความรู้สึก มีหัวใจ จะเสียใจบ้างมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย ชีวิตก็คือความสมดุลอย่างหนึ่ง ที่เรานั้นต้องควบคุมมันด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่ให้สิ่งที่อยู่รอบตัวเรา มีอิทธิพลและควบคุมความรู้สึกเรามากเกินไป มีบทกวีหนึ่งเคยกล่าวว่า

นมัสการสุดท้าย ผู้ซึ่งรู้ว่าฉันบกพร่อง แต่ก็ยังรัก ผู้ซึ่งรู้ว่าฉันอ่อนแอ มากเกินกว่าที่ผู้ใดจะรับรู้ด้วยผิวเผิน ผู้ซึ่งรู้ว่าฉันปากแข็งมากเหลือเกิน แต่หาทางเพื่อให้ได้คำตอบจากฉัน ด้วยความอ่อนโยนเสมอ และสุดท้ายแด่เธอที่รัก ผู้ซึ่งสอนให้ฉัน ให้รู้จักปล่อยวางในความพยายามทุกอย่าง ที่มากเกินไป...

ในประโยคสุดท้ายเราจะเห็นว่า รู้จักปล่อยวางในความพยายามทุกอย่าง ที่มากเกินไป หากเรายังพยายามที่จะหลอกตัวเองว่า เรายังโอเค เรายังไหว และซ่อนความรู้สึกเหล่านั้นไว้ข้างใน แทนที่มันจะหายไป มันจะยิ่งปะทุหนักกว่าเดิม และระเบิดในท้ายที่สุด และเมื่อถึงเวลานั้น มันอาจจะยากแล้วที่อยากจะแก้ไขให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้

อย่าลืมนะว่า ไม่มีความรู้สึกไหนจะคงอยู่กับเราตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความเสียใจ หรือความสุข ทุกอย่างล้วนเข้ามาและก็จากไปเสมอ เพราะฉะนั้น หยุดหลอกตัวเองว่ายังไหวได้แล้ว  และปล่อยตัวเองให้ได้พบกับความเจ็บปวดบ้าง ปลดปล่อยให้ตัวเองได้พูดคำว่า "ช่างแม่ง" ออกมาบ้าง เพื่อที่เราจะได้ผ่านไปได้ อย่างน้อยก็ไม่ได้หลอกตัวเองอยู่นั่นเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related