30 ม.ค. วัน School Day of Non-violence and Peace เพื่อยุติความรุนแรงในโรงเรียน

ประวัติความเป็นมา วันสันติภาพไร้ความรุนแรงในโรงเรียน มีต้นกำเนิดในประเทศสเปนเมื่อปี 1964 ซึ่งเรียกว่า “Dia Escolar de la No-violència i la Pau” หรือตัวย่อคือ “DENIP” และได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเสียชีวิตของ “มหาตมะ คานธี” นักจริยธรรมการเมืองชาวอินเดียชื่อดัง และเป็นผู้นำการรณรงค์ต่อต้านความรุนแรง จนอินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 แต่เขากลับถูกลอบสังหาร ในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ 1948 ขณะมีอายุ 78 ปี

ทำให้ วันสันติภาพไร้ความรุนแรงในโรงเรียน จึงเป็นวันที่มีขึ้นเพื่อสนับสนุนการศึกษาที่ปราศจากการใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นหลักปรัชญาของ คานธี

ทำให้ในแต่ละปี วันนี้จะนำเสนอสาส์นที่ว่า “ความรักในเพื่อนมนุษย์ย่อมดีกว่าความเห็นแก่ตัว ความอหิงสาย่อมดีกว่าความรุนแรง และสันติภาพย่อมดีกว่าสงคราม”

วิธีมีส่วนร่วมกับ "วันสันติภาพไร้ความรุนแรงในโรงเรียน"

หนึ่งในการตระหนักถึงความสำคัญของวันดังกล่าวเบื้องต้นคือ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ปู่ย่าตายาย ครูบาอาจารย์ หรือใครก็ตามที่มีลูกหลานต้องดูแล สามารถใช้โอกาสนี้ พูดคุยกับพวกเขาถึงผลกระทบความรุนแรงที่มีต่อโลกได้

สำหรับเด็กโต อาจศึกษาเกี่ยวกับชีวประวัติของ “มหาตมะ คานธี” เพื่อให้ถึงวิธีการต่อสู้อย่างสันติ-อหิงสา และการไม่ใช้ความรุนแรงของเขา ส่วนเด็กเล็กอาจมีส่วนร่วมโดยการเข้าร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมความสามัคคีกับคน ชุมชน รวมถึงกิจกรรมที่ฝึกฝนให้พวกเขาสามารถอยู่กับเพื่อนร่วมชั้นได้อย่างสงบสุข ไปจนถึงเรียนรู้วิธีป้องกันตัวเองจากการถูกกลั่นแกล้งอีกด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของกิจกรรมของโรงเรียนทั่วไปในสเปน จะมีการประชุมโดยเชิญนักการศึกษา ครู และนักเรียนทุกระดับชั้นให้เข้าร่วมและอภิปรายถึงวิธีสร้างสังคมที่ปราศจากความรุนแรง โดยใช้หลักสันติและความยุติธรรม ซึ่งภารกิจเหล่านี้สนับสนุนให้นักเรียนทุกคนมีความสามัคคี เคารพสิทธิของกันและกัน และอยู่ร่วมกันได้ แม้แต่ละคนจะมีความชอบหรือลักษณะนิสัยแตกต่างกันก็ตาม

นอกจากนี้ การบริจาคให้องค์กรสันติภาพ หรือองค์กรต่อต้านสงคราม ก็ถือเป็นกิจกรรมหลักของวันสันติภาพไร้ความรุนแรงในโรงเรียนอีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• Beyond Scared Straight ครั้งหนึ่ง สหรัฐฯ เคยเอาแก๊งเด็กนรกมาดัดนิสัยในคุก 
• อายุขั้นต่ำ การรับโทษทางอาญาของเด็กและเยาวชนในเอเชีย 
• เปิดผลสำรวจเด็กไทยอยากได้อะไรจากระบบการศึกษา? อยากให้เพิ่มวิชาการเงิน