ครั้งแรกของโลก การบันทึกภาพ โต๊ะจีนวาฬฟิน สารคดีการล่าของวาฬกว่า 300 ชีวิต
Epic Adventures with Bertie Gregory สารคดีชีวิตวาฬฟิน ที่ได้เป็นสารคดีสุดตระการตาอีกชิ้นหนึ่งของโลก เพราะได้นำพาเราได้พบกับปรากฎการณ์โต๊ะจีนของวาฬฟินที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นครั้งแรกของโลก ที่การเดินทางเพื่อเก็บภาพสัตว์ป่าสุดหฤโหดและท้าทายของเบอร์ตี้ เกรกอรี (Bertie Gregory) นักถ่ายทำสารคดีชีวิตสัตว์ป่าและทีมงานของ National Geographic นำพาเราไปสู่การพบเจอกับปรากฎการณ์ที่มนุษย์ไม่เคยเห็นมาก่อนกับเทศกาลโต๊ะจีนของวาฬฟิน (Fin Whale) ที่ได้รวบรวมวาฬฟินกว่า 300 ชีวิตมาปาร์ตี้ตัวเคยในคาบสมุทรแอนตาร์กติก
การเดินทางครั้งนี้สร้างความท้าทายและความน่าตื่นเต้นให้กับทีมถ่ายทำ นอกจากความอันตรายของสภาพอากาศสุดขั้วที่มีทั้งพายุและความหนาวเย็น แม้กระทั่งการจอดเรือให้อยู่นิ่ง ๆ ยังยาก ในการสืบเสาะหากลุ่มวาฬฟินเพื่อศึกษาและทำวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของพวกมัน
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
-
ทำความรู้จัก 10 วาฬน่าสนใจ พร้อมวิเคราะห์ทำไมอูยองอูถึงชอบวาฬ
-
ผลกระทบของมลพิษทางเสียงใต้ทะเลจากกิจกรรมของมนุษย์ เสียงมหาสมุทรคืออะไร?
-
เพนกวินจักรพรรดิเสี่ยงสูญพันธุ์เพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ภารกิจในครั้งนี้คือการ เดินทางตามหาวาฬฟิน วาฬที่มีความใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากวาฬสีน้ำเงินและถือเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก การพบเจอครั้งนี้ทำให้เขาพบความจริงที่น่าทึ่งกว่านั้น เบอร์ตี้เดินทางไปด้วยเรือตัดน้ำแข็งขนาดเล็ก และตั้งเป้าว่าจะใช้เวลาในการถ่ายทำถึง 6 สัปดาห์
สภาพอากาศเป็นเรื่องที่ท้าทายที่สุดของการเดินทาง แถมยังต้องเผชิญหน้ากับแมวน้ำสิงโตสุดเกเร เพนกวินจอมเซ่อซ่ามากมาย และนกอัลบาทรอส นกทะเลหลายพันตัวที่มาร่วมในปาร์ตี้โต๊ะจีนครั้งนี้ด้วย
การถ่ายทำแตกต่างไปจากในอดีตมากขึ้น ทีมงานของเบอร์ตี้ใช้เทคนิคการถ่ายทำ 3 รูปแบบ ทั้งการใช้โครนสำหรับการถ่ายทำมุมสูง กล้องกันสั่นที่ทนทานสำหรับใช้ในทางการทหารและการเสริมอุปกรณ์ดำน้ำให้กับกล้องอีกมากมาย เพื่อเก็บภาพใต้น้ำสุดเร้าใจให้เราได้รับชม
ด้วยสภาพอากาศที่โหดร้าย ทำให้ทริปกลางทะเลครั้งนี้สั้นกว่าที่คาดไว้ ด้วยการถ่ายทำจริงเพียง 6 วันจากที่ตั้งไว้ 6 สัปดาห์ แต่ผลที่ได้รับนั้นคุ้มค่ากับความเหนื่อยล้าทั้งหมด
ท้ายที่สุดเราได้พบกับกลุ่มวาฬฟินขนาดใหญ่ในวันที่ฟ้าเป็นใจ พวกมันกำลังรวมตัวกันจัดโต๊ะจีนตัวเคยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นักวิจัยคาดว่า การรวมตัวกันครั้งนี้มีวาฬฟินกว่า 300 ชีวิตมาร่วมโต๊ะด้วย ทำให้กลายเป็นการบันทึกภาพที่ไม่เคยมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ รวมไปถึงมวลมหานกอัลบาทรอส ที่มาร่วมโต๊ะจีนนี้ด้วย
นอกจากนี้เบอร์ตี้ยังพบกับซากกระดูกวาฬและได้บอกเล่าถึงสุดท้ายสุด ที่ครั้งหนึ่งมนุษย์เรานั้นโหดเหี้ยมต่อวาฬขนาดไหน วาฬหลายตัวจบชีวิตลงจากประเพณีการล่าวาฬในสมัยก่อนเพื่อนำไปทำเป็นน้ำมันตะเกียงและจารบี
การถ่ายทำสารคดีทำให้ได้ใกล้ชิดกับสิ่งมีชีวิตมากขึ้น และเราก็รับรู้ได้ว่า พวกมันไม่ได้ดุร้ายอะไรมาก และใช้ชีวิตใต้ท้องทะเลอย่างสงบเสงี่ยม มันทำให้เรารู้ว่า แท้จริงแล้ว สิ่งที่โหดร้ายต่อห่วงโซ่นี้มากที่สุด คือมนุษย์
นอกจากการบันทึกภาพกลุ่มวาฬยักษ์ การเดินทางครั้งนี้ยังมีจุดประสงค์เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ผู้ดูแลรูปแบบการอพยพของวาฬฟิน ได้เก็บข้อมูลเพื่อศึกษาและทำความเข้าใจสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มากขึ้น การค้นพบกลุ่มวาฬฟินเป็นจำนวนมากหลังจากพวกมันเคยถูกล่าจนเกือบสูญพันธุ์ในช่วงศตวรรษที่ 20 ถือเป็นสัญญาณอันดีว่าวาฬฟินกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นหลังจากมีการบังคับใช้นโยบายห้ามล่าและฆ่าวาฬเพื่อการพาณิชย์ โดยนับเป็นของความพยายามอนุรักษ์สัตว์ป่าที่เห็นผลชัดเจนซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน และยังถือเป็นตัวอย่างชั้นดีว่าธรรมชาตินั้นสามารถฟื้นฟูได้หากให้โอกาสพวกมันได้ดูแลตัวเอง
"Epic Adventures with Bertie Gregory" อำนวยการสร้างโดย Wildstar Films สำหรับเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ดำเนินรายการและกำกับภาพโดย เบอร์ตี้ เกรกอรี (Bertie Gregory) วาเนสซา เบอร์โลวิตซ์ (Vanessa Berlowitz) และ อันวาร์ มามอน (Anwar Mamon) นั่งแท่นผู้อำนวยการสร้างจาก Wildstar กำกับโดย เจมส์ บริกเคลล์ (James Brickell) โดยมี ฮิวจ์ เพียร์สัน (Hugh Pearson), ซูซี โพวีย์ (Susie Povey), พาร์คเกอร์ บราวน์ (Parker Brown), จอร์จ พากลิเอโร (George Pagliero) และวิลล์ เวสต์ (Will West) ร่วมกำกับ เจเน็ต ฮัน วิสเซอริง (Janet Han Vissering) และ ดรู โจนส์ (Drew Jones) นั่งแท่นผู้อำนวยการสร้างจากเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก
แต่เพื่ออถรรสในการรับชม ต้องไปรับชมเองจริง และรับชมได้แล้วใน Disney+ Hotstar
