นักล่าวาฬพบฉมวกอายุ 120 ปี ในคอวาฬหัวคันศร ผู้เชี่ยวชาญกล่าว กลายเป็นวาฬและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีอายุมากที่สุดในโลกในขณะนี้
อาจจะเป็นเรื่องเศร้าสำหรับคนรักสัตว์ ที่วาฬเป็นอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่ยังคงถูกล่าอยู่ในปัจจุบัน สัตว์ใหญ่ที่ต่อให้ตัวโตแค่ไหนก็แพ้มนุษย์ตัวเล็กๆ เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวที่เพิ่งมีรายงานผลการตรวจสอบฉมวกเก่าแก่ที่พบในวาฬหัวคันศรจากนักวิทยาศาสตร์ แม้ว่ามันจะถูกล่ามานานแล้ว ตั้งแต่ในปี 2007
วาฬหัวคันศร หรือ วาฬโบว์เฮด (Bowhead whale) ขนาดยักษ์ถูกจับได้นอกชายฝั่งอะแลสกา ผู้ล่าพบฉมวกเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยระเบิดฝังอยู่ที่คอของมัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันรอดชีวิตจากการล่ามาได้นานเกินกว่าหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา
จุดเริ่มต้นเรื่องราว
ในเดือนพฤษภาคม ปี 2007 นักล่าวาฬได้ทำการล่าวาฬตามประเพณีดั้งเดิมของชาวเอสกิโมในอะแลสกา ขณะตรวจสอบวาฬ พวกเขาก็ได้ไปพบกับฉมวกปริศนาที่ฝังอยู่ตรงกระดูกระหว่างคอและสะบักของวาฬ พวกเขาจึงใช้เลื่อยไฟฟ้าตัดเพื่อดึงฉมวกนั้นออกมา และส่งไปให้ John Bockstoce ภัณฑารักษ์ของ New Bedford Whaling Museum ในแมสซาชูเซตส์ ตรวจสอบ จอห์นกล่าวว่า “ไม่มีการค้นพบอื่นใดที่แม่นยำมากกว่าเท่านี้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อโลมาไม่อยู่เคียงคู่ธารา หลังโลมาอิรวดีตัวสุดท้ายจากไป บอกอะไรบ้าง?
กลับสู่วิถีเดิม วาฬเพชฌฆาตกลับมาล่าวาฬสีน้ำเงิน หลังพ้นยุคมนุษย์ล่าวาฬ
คลิปไวรัล "วาฬที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก" สลดใจเอาหัวชนสระอย่างเดียวดาย
เกี่ยวกับฉมวก
ขนาดของหัวลูกศรหรือฉมวกที่พบนั้นมีความยาว 13 เซนติเมตร หรือจะเรียกว่าเป็นหัวของหอกระเบิด ที่จดสิทธิบัตรในปีค.ศ. 1879 และถูกสร้างขึ้นในเมืองนิว เบดฟอร์ด (New Bedford) บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐแมสซาชูเซตส์ ช่วงปลายปีค.ศ. 1800 มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่เมืองนี้ถูกรู้จักในฐานะเมืองหลวงแห่งการล่าวาฬที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ระเบิดที่ถูกผลิตในสมัยศตวรรษที่ 19 มันถูกยิงจากปืนบ่าหนัก เป็นลักษณะของปืนสำหรับล่าวาฬ ที่จะมีฉมวกติดอยู่ที่ปากกระบอกปืนโลหะขนาดเล็ก ภายในนั้นเต็มไปด้วยระเบิดและมีการติดตั้งฟิวส์เวลา ดังนั้นเมื่อมันถูกยิงออกไปมันจะระเบิดทันทีภายในไม่กี่วินาที
แต่คาดว่าหลังจากยิงออกไปนั้นมันน่าจะไปติดอยู่ระหว่างกระดูกและเนื้อหนาๆของมันจนทำให้ระเบิดไม่ทำงาน และคาดว่าคนที่ล่ามันคงคิดว่าระเบิดคงด้าน ผู้เชี่ยวชาญเสริมว่า อาวุธดังกล่าวได้ถูกตรึงการผลิตไว้ที่โรงงานในนิวอิงแลนด์ในปี 1880 แล้วและมันถูกแทนที่ด้วยปืนยิงลูกดอกขนาดใหญ่แทนในไม่กี่ปีต่อมา
แม้ว่าอุปกรณ์ระเบิดจะมีความรุนแรง แต่วาฬตัวดังกล่าวก็ยังคงปลอดภัยดีเรื่อยมา ซึ่งคาดว่าเพราะความหนาของชั้นผิวหนังของมันหนา 1 ฟุต และกระดูกที่หนาอีก 1 ฟุต ทำให้ระเบิดไม่ทำงาน
“มันอาจจะทำร้ายวาฬหรือทำให้มันรำคาญ แต่มันก็ไม่ทำอันตรายกับมัน วาฬตัวนี้อาจจะไม่ลำบากใจมากขนาดนั้น ถ้ามันได้มีชีวิตต่อไปอีก 100 ปี เพราะมันแทบจะไม่รู้ตัวเลย”
เกี่ยวกับวาฬหัวคันศรตัวที่ถูกล่า
จากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ วาฬหัวคันศรที่ถูกล่าได้นี้ มีน้ำหนัก 50 ตัน มันอาศัยอยู่รอบๆน่านน้ำอาร์กติกที่เย็นยะเยือกมาตั้งแต่สมัยวิกตอเรียนแล้ว และคาดว่ามันมีอายุ 115-130 ปี
พวกเขาวัดอายุของมันได้จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของระดับกรดแอสปาร์ติก(aspartic) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่พบได้ในเลยส์ตาและฟัน ลูกตาของวาฬหัวคันศรมีขนาดเท่าลูกสนุ๊กเกอร์ พวกเขาบอกว่าสามารถบอกอายุของวาฬได้ด้วยปริมาณกรดที่พบ ซึ่งจะเพิ่มปริมาณขึ้นทุกปีตั้งแต่เกิด
นั่นจึงหมายความว่า วาฬตัวนี้มีอายุมามากกว่าศตวรรษ จึงถูกตั้งให้เป็นวาฬหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีอายุยืนยาวมากที่สุดในโลกตอนนี้
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ามันเกิดในปีค.ศ. 1877 ในสมัยที่ที่รัทเธอร์ฟอร์ด บี. เฮย์ส (Rutherford B. Hayes) สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อกองกำลังฟื้นฟูของรัฐบาลกลางถอนกำลังออกจากทางใต้ และเมื่อโธมัส เอดิสันเปิดเผยสิ่งประดิษฐ์ใหม่ล่าสุดของเขา นั่นคือแผ่นเสียง
ทำไมมันถึงมีชีวิตรอดได้นานขนาดนี้
ปกติอายุที่เก่าแก่ที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมคือ 110 ปี สำหรับวาฬสีน้ำเงินและ 114 สำหรับวาฬฟิน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดเดียวที่ใกล้เคียงกับวาฬคือช้างซึ่งสามารถมีชีวิตได้ถึง 70 ปีในกรงขัง แต่กับวาฬตัวนี้ถือเป็นเคสที่หายากมากๆ
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า อายุขัยของวาฬหัวคันศรตัวนี้เป็นผลมาจากสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากซึ่งพวกมันอาศัยอยู่ในอาร์กติกที่เย็นยะเยือก ซึ่งไม่มีแพลงก์ตอนและคริลล์ครัสเตเชียน (krill crustaceans-สัตว์ทะเลขนาดเล็กคล้ายกุ้ง)มากมายพอให้กิน จึงทำให้วาฬมีการเผาผลาญอาหารช้าลง เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
วาฬหัวคันศร เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์และปัจจุบันเหลือประมาณ 8,000-12,000 ตัวเท่านั้น พวกมันเดินทางด้วยกันเป็นฝูงเล็กๆและลูกวาฬที่มีน้ำหนักมากถึง 6 ตันตั้งแต่แรกเกิด ศัตรูเพียงหนึ่งเดียวของมันคือมนุษย์และวาฬออร์กา
เกี่ยวกับประเพณีการล่าวาฬ
ในขณะที่การล่าวาฬเชิงพาณิชย์ถูกห้ามโดยข้อตกลงระหว่างประเทศ แต่ชาวพื้นเมืองจากอะแลสกาในภูมิภาค Chukotka ทางตะวันออกของรัสเซียและกรีนแลนด์ได้รับอนุญาตให้ล่าวาฬจำนวนคงที่เพื่อการบริโภคแบบดั้งเดิมที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์
ในอะแลสกามีการจำหน่ายเนื้อวาฬที่ได้จากการล่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมักเป็นนักล่าวาฬ การล่าวาฬเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญสำหรับชาวอะแลสกามาโดยตลอด และได้รับการตรวจสอบโดยคณะกรรมาธิการการล่าวาฬระหว่างประเทศแล้ว
การต่ออายุโควตาสำหรับคณะกรรมาธิการการล่าวาฬเอสกิโมแห่งมลรัฐอะแลสกาได้รับการต่ออายุเมื่อเไม่นานมานี้ โดยอนุญาตให้เก็บเกี่ยววาฬได้ 255 ตัวโดย 10 หมู่บ้านในอะแลสกาเป็นระยะเวลาห้าปี
สรุปจากผู้เขียน
แม้ว่าจะเป็นประเพณีดั้งเดิม ตามวิถีการเอาชีวิตรอดและการดำรงอยู่ของชีวิตมนุษย์ แต่ผู้เขียนก็แอบเสียดายที่วาฬตัวดังกล่าวสามารถเอาตัวรอดมาได้เป็นร้อยปี แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงด้วยกระสุนล่าวาฬเพียงไม่กี่นัด แม้ว่าข้อจำกัดประเพณีล่าวาฬจะถูกลดทอนลงจากเมื่อก่อนมากโดยมาจากการกดดันของนักอนุรักษ์
แต่ทุกวันนี้ประเพณีเหล่านี้ยังคงอยู่ และไม่ได้มีแค่ชาวเอสกีโมในอะแลสกาเพียงผู้เดียวที่มีประเพณีนี้ ยังมีอีกหลายหมู่บ้าน หลายชนเผ่า หลายประเทศมีการล่าวาฬ ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ดังนั้น โลกใบนี้ยังคงโหดร้ายเสมอ สำหรับห่วงโซ่อาหารที่มีมนุษย์เป็นจุดสูงสุดของยอดพีรมิด
ที่มาข้อมูล
https://www.nbcnews.com/id/wbna19195624
http://awesomeocean.com/guest-columns/harpoon-bowhead-whale/