SHORT CUT
ในช่วงเวลาที่ชาวคริสต์เข้าสู่บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองในเทศกาลคริสต์มาส ชาวพุทธก็สามารถเปิดใจฉลองวันคริสต์มาสได้ เพราะทั้งพระพุทธศาสนาและศาสนาคริสต์ต่างมีแนวทางในการส่งเสริมคุณค่าของการให้
วันคริสต์มาส (Christmas) คือวันเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นศาสดาสูงสุดของชาวคริสต์ทั่วโลก
ทั้งนี้ ‘พระเยซู’ และ ‘พระพุทธเจ้า’ ต่างก็เป็นศาสดาที่นำเสนอแนวทางการดำเนินชีวิตที่มุ่งเน้นไปที่ความรัก ความเมตตา และการแสดงความรักของผู้อื่น ดังนั้นหลักคำสอนจากทั้ง 2 ศาสนานี้ อาจไม่ได้ห่างไกลกันอย่างที่คิดก็ได้ และเนื้อหาด้านล่างนี้ คือเหตุผล !
ในศาสนาพุทธ ‘พระโพธิสัตว์ (Bodhisattva)’ คือ บุคคลที่มีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะบรรลุพระอรหันต์หรือเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากทุกข์และวัฏสงสาร ซึ่งเรื่องประหลาดก็คือ
มีชาวพุทธบางกลุ่มเชื่อว่า ลักษณะของพระเยซูตรงกับความเป็น พระโพธิสัตว์
พระเยซู คือผู้ที่ละทิ้งผลประโยชน์ของตนเอง เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ผ่านความเมตตา ความรัก และความกรุณาอันยิ่งใหญ่ และยังทิ้งคำสอนที่คนยังปฏิบัติตามมาถึงปัจจุบัน ชาวพุทธบางกลุ่มจึงมอง พระเยซูเป็น พระโพธิสัตว์ และบางกลุ่มถึงขั้นเชื่อว่า พระเยซูเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้าเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อนี้เป็นเรื่องที่ไม่จริง เพราะพระเยซูทรงปฏิบัติศาสนกิจของพระองค์แตกต่ากจากพระพุทธเจ้า โดยมีความเป็นเทวนิยม กล่าวถึงผู้สร้างโลก ชีวิตหลังความตาย ในขณะที่พระพุทธเจ้าไม่ได้กล่าวถึงเรื่องพระเจ้า แต่เน้นที่ชีวิตปัจจุบัน ทว่าแม้จะเดินคนละสาย แต่ก็นำไปสู่จุดหมายเดียวกันนั่นคือการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทุกชนชั้น
พระเยซูเน้นเรื่องสวรรค์หลังความตาย เป็นของขวัญ พระพุทธเจ้าเน้นความรอดจากภายในและ "สวรรค์" ที่สามารถสัมผัสได้ในปัจจุบัน
ถึงจะแตกต่าง แต่ทั้ง 2 พระองค์ ต่างโอบรับทุกคน โดยไม่สนว่าใครเป็นอย่างไรในอดีต หรือมีเชื้อชาติอะไร แต่สนใจที่จะมุ่งหน้าไปทางไหนมากกว่า พระองค์ได้ทิ้งมรดกทางคำสอนและการปฏิบัติที่ส่งผลต่อชีวิตของผู้คนนับพันล้านตลอดระยะเวลากว่าสองพันปี
ท่าน ‘ติช นัท ฮันห์ (Thich Nhat Hanh)' พระภิกษุชาวเวียดนามชื่อดัง ได้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยง 2 ศาสนานี้เข้าด้วยกันอย่างลึกซึ้งในหนังสือ ‘Living Buddha, Living Christ’ ซึ่งสะท้อน ความงามของศาสนาคริสต์ในมุมมองของผู้ที่ไม่ได้เป็นชาวคริสต์ และสำรวจจุดร่วมของ ‘ความกรุณา’ และ "ความศักดิ์สิทธิ์" ที่สองศาสนานี้มีร่วมกัน และกล่าวว่า หาก พระพุทธเจ้าและพระเยซู ได้มีโอกาสกลับมาพบกันใหม่ในปัจจุบัน คงมีมุมมองชีวิตมากมายมาแลกเปลี่ยนกันแน่นอน
ในเดือนธันวาคม นอกจากจะมีวันคริสต์มาส (Christmas) ที่เฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ผู้นำความหวังและความรักมาสู่โลกมนุษย์ แต่ภายในเดือนนี้ยังมีวัน ‘Bodhi Day’ หรือ ‘วันโพธิ์’ ที่มีความสำคัญต่อชาวพุทธอีกด้วย โดยเป็นวันรำลึกถึงพระพุทธเจ้า สิทธัตถะ โคตมะ (ศากยมุนี) บรรลุธรรมและตรัสรู้ หรือที่เรียกว่า ‘โพธิ์’ ในภาษาสันสกฤตและบาลี ทำให้ชาวพุทธในบางพื้นที่ จะมีการใช้ไฟหลากสีตกแต่งต้นโพธิ์ หรือต้นไทร ซึ่งเป็นต้นไม่ที่ พระพุทธเจ้าได้ประทับ ก่อนตรัสรู้ คล้ายกับการตกแต่งต้นคริสต์มาสของชาวคริสต์
ในเดือนแห่งการเฉลิมฉลองนี้ ไม่ว่าจะชาวพุทธ คริสต์ หรือนอกเหนือจากนี้ ควรใช้โอกาสช่วงเวลาแห่งเทศกาลคริสต์มาส แสดงความกรุณา และความสุขให้กับคนรอบตัว ไม่ว่าคุณจะจุดเทียนไหว้พระ หรือแขวนของขวัญบนต้นคริสต์มาส ทุกสิ่งล้วนแสดงถึงการส่งต่อแสงสว่างในใจเราให้แก่ผู้อื่น นั่นคือความงดงามของช่วงเวลาคริสต์มาส ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของศาสนาแต่อย่างใด
ที่มา : templebuddhistcenter
ข่าวที่เกี่ยวข้อง