svasdssvasds

ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสสเปน จากเด็กที่ทำตามความฝัน สู่ตำนานลูกสักหลาด

ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสสเปน จากเด็กที่ทำตามความฝัน สู่ตำนานลูกสักหลาด

"ผมเป็นเพียงเด็กที่เดินตามความฝัน ทำงานหนักเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะมาถึงจุดที่ผมเป็นอยู่ในวันนี้” ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสชาวสเปน เจ้าของฉายา “ราชาแห่งคอร์ตดิน”

SHORT CUT

  • ในวัยเด็ก นาดาล ต้องเลือกระหว่างการเป็นนักเทนนิสหรือนักฟุตบอล แต่เขาเลือกที่จะเดินตามเส้นทางของลูกสักหลาด
  • นาดาล  เคยแพ้ แพ้นักเทนนิสไทย ‘ภราดร ศรีชาพันธุ์’ ในปี 2003 แต่หลังจากนั้นเขาก็พัฒนาตนเองอย่างรวดเร็ว จนคว้าแชมป์แกรนด์สแลม (Grand Slam) 2005 
  • ‘ดาบิด เฟร์เรอร์ (David Ferrer)' กัปตันทีมสเปน บอกกับนาดาลว่า "มีผู้คนที่ถูกจดจำจากความสำเร็จในชีวิต บางคนมีคนจำถึงวันสุดท้ายของชีวิต บางคนถูกจดจำตลอดไป ซึ่งนาดาลคือจะถูกจดจำตลอดไป"

"ผมเป็นเพียงเด็กที่เดินตามความฝัน ทำงานหนักเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะมาถึงจุดที่ผมเป็นอยู่ในวันนี้” ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสชาวสเปน เจ้าของฉายา “ราชาแห่งคอร์ตดิน”

การแข่งขันเทนนิสทีมชายชิงแชมป์โลก (เดวิสคัพ) ที่เมืองมาลากา ประเทศสเปน รอบก่อนรองชนะเลิศ ระหว่าง ‘ราฟาเอล นาดาล (Rafael Nadal)’ กับ ‘โบติค ฟาน เดอ ซานด์ชูลป์ (Botic Van de Zandschulp) ’ ชาวดัตช์มือ 80 ของโลก กลายเป็นแมตช์สุด ‘ดราม่า’ เมื่อหลังจบการแข่งขัน นาดาล ได้ประกาศ การแขวนแร็กเก็ตอย่างเป็นทางการ 

ถือเป็นการปิดฉากตำนานนักเทนนิสที่สร้างชื่อเสียงในวงการมามากถึง 23 ปี และชวยให้ประเทศสเปนคว้าแชมป์เดวิสคัพมาได้ 5 สมัย ซึ่งบรรยากาศหลังจบการแข่งขัน นาดาลได้กล่าวขอบคุณแฟนๆ ในสนามทั้งชาวสเปน และชาวเนเธอร์แลนด์ ไปจนถึงแฟนๆ ทั่วโลกที่เป็นกำลังใจให้เขามาเสมอ

นาดาลอำลาอาชีพในฐานะนักเทนนิสชายเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จมากเป็นอันดับสองตลอดกาล รองจาก ‘โนวัค โจโควิช’ คู่แข่งของเขา

ประวัติ ราฟาเอล นาดาล

นักเทนนิสผู้เป็นตำนานตลอดกาล ราฟาเอล นาดาล ปาเรรา ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 1986 ที่มานากอ บนเกาะมายอร์ก้า ประเทศสเปน เขาเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่มีความรักในกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอลและเทนนิส เนื่องจากลุงของเขาเป็นนักฟุตบอลทีมชาติสเปนและนักเทนนิสอาชีพ นาดาล เริ่มเล่นเทนนิสตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้นจากลุงโทนี่ ซึ่งเป็นโค้ชคนแรกของเขา

ประวัติ ราฟาเอล นาดาล PHOTO AFP

ชีวิตที่ต้องเลือกระหว่างฟุตบอล กับเทนนิส

ในวัยเด็ก นาดาลต้องเลือกระหว่างการเป็นนักเทนนิสหรือนักฟุตบอล แต่เขาเลือกที่จะเดินตามเส้นทางของลูกสักหลาด ด้วยทักษะที่โดดเด่นและความมุ่งมั่น เส้นทางอาชีพของนาดาลเริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังเมื่อเขาก้าวขึ้นมาเป็นมืออาชีพในปี 2001

แต่ก่อนที่เขาก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่เก่งที่สุดในโลก เขาได้แพ้นักเทนนิสไทย ‘ภราดร ศรีชาพันธุ์’ ในปี 2003 แต่หลังจากนั้นเขาก็พัฒนาตนเองอย่างรวดเร็ว จนคว้าแชมป์แกรนด์สแลม (Grand Slam) 2005 ซึ่งเป็น หนึ่งในการแข่งขันเทนนิสที่ใหญ่ที่สุดของโลก ครั้งแรกที่เฟรนช์โอเพน ด้วยการเอาชนะมาเรียโน ปูเอร์ต้า นับตั้งแต่นั้นมา เขาก็กลายเป็น "ราชาคอร์ทดิน" (King of Clay) ด้วยการคว้าแชมป์เฟรนช์โอเพนถึง 14 สมัย

ท็อปสปินอันทรงพลังของนาดาล

นาาลมีจุดเด่นที่โฟร์แฮนด์ท็อปสปินอันทรงพลัง ซึ่งทำให้เขามีข้อได้เปรียบในการแข่งขันบนคอร์ตดิน และแม้จะต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง จาก ‘Mueller-Weiss Syndrome’ ซึ่งเป็นโรคเสื่อมที่เท้าซ้ายซึ่ง แต่เขาก็ไม่เคยยอมแพ้ และขอลงแข่งด้วยจิตใจที่เข้มแข็งทุกครั้งเมื่อมีโอกาส

ตลอดอาชีพของเขา นาดาลได้สร้างตำนานมากมาย รวมถึงการคว้าแชมป์โอลิมปิกสองเหรียญทอง และการเป็นส่วนหนึ่งของ "บิ๊กทรี" ซึ่งหมายถึงสามยอดนักเทนนิส ร่วมกับโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และโนวัค ยอโควิช นอกจากนี้ เขายังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬาแห่งยุคที่มีความสำเร็จมากที่สุดอีกด้วย

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา นาดาลได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนทั่วโลก เขายังได้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส และเปิดสถาบันสอนเทนนิสในมายอร์กา เพื่อส่งต่อความรู้และประสบการณ์ให้กับคนรุ่นใหม่

เมื่อมองไปยัง ราฟาเอล นาดาล จะไม่ได้พบเพียงแค่ภาพความเป็นนักกีฬาของเขา แต่เขายังเป็นตัวแทนของความพยายาม การต่อสู้เพื่อความฝัน และการไม่ยอมแพ้ จึงไม่แปลกที่หลายล้านคนจะยกให้เขาเป็นไอดอล แห่งวงการกีฬา ไม่ต่างอะไรกับ 

เรื่องราวชีวิตของราฟาเอล นาดาลไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวของนักกีฬา แต่ยังเป็นเรื่องราวของความฝัน ความพยายาม และการไม่ยอมแพ้ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นไอดอลและแรงบันดาลใจให้กับคนหลายล้านทั่วโลก 

มรดกของนาดาลจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์ ราฟาเอล นาดาล PHOTO AFP

มรดกของนาดาลจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์

ในแมตช์สุดท้าย ของเขา ราฟาเอล นาดาล เขาต้องพบกับความพ่ายแพ้ 6-4 6-4 ต่อ โบติค ฟาน เดอ ซานด์ชูลป์ ในการแข่งขันเดวิสคัพรอบก่อนรองชนะเลิศ ส่งผลให้สถิติการชนะติดต่อกัน 29 แมตช์ในประเภทชายเดี่ยวของเขาถูกทำลาย แต่หลังความพ่ายแพ้ นาดาลกล่าวว่า “ในบางมุมมันก็ดีนะ หากว่านั่นเป็นแมตช์สุดท้ายของผม”

“ผมแพ้แมตช์แรกในเดวิสคัพ และแพ้แมตช์สุดท้ายด้วย เรากลับมาที่จุดเริ่มต้น ผมออกจากวงการด้วยความสบายใจว่าผมได้สร้างมรดกที่ไม่ใช่แค่ในด้านกีฬา แต่ยังมีเรื่องราวของผมอีกด้วย" นาดาลกล่าว

นอกจากนี้ โนวัค โจโควิช  ยังอำลา นาดาล ดาล โดยระบุว่า "ผมรู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นมากที่ถูกคุณเรียกว่าคู่แข่งของคุณ”

ขณะที่ 'แอนดี้ เมอร์เรย์ (Andrew Murray)' นักกีฬาเทนนิสชาวอังกฤษ กล่าวว่า “ความหลงใหลและความเข้มข้นทระหว่างที่คุณลงแช่ง เป็นสิ่งที่ผมคิดว่านักเทนนิสทุกคนใฝ่ฝัน และแฟนเทนนิสทุกคนจะจดจำคุณในเรื่องนี้ การได้มองคุณทำให้ผมรู้สึกเหลือเชื่อมาก”

ส่วน ‘เซเรน่า วิลเลียมส์ (Serena Williams)’ นักเทนนิสหญิงชาวอเมริกัน โพสต์บนอินสตาแกรมว่า "ขอแสดงความยินดีกับอาชีพที่ใครๆ ก็ไม่กล้าฝันถึง มรดกของคุณจะไม่มีวันสูญสลาย"

และ ‘ดาบิด เฟร์เรอร์ (David Ferrer)' กัปตันทีมสเปน บอกกับนาดาลว่า "มีผู้คนที่ถูกจดจำสำหรับความสำเร็จในชีวิต บางคนมีคนจำถึงวันสุดท้ายของพวกเขา ส่วนบางคนจะถูกจดจำชั่วนิรันดร์ ซึ่งนาดาลคือจะถูกจดชั่วนิรันดร์ "

ที่มา : Biography/BBC 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

 

related