svasdssvasds

เปิดบ้าน! “ไทยกูลิโกะ” ปั้นอาณาจักรแบบรักษ์โลกรับเทรนด์ใหม่

เปิดบ้าน! “ไทยกูลิโกะ” ปั้นอาณาจักรแบบรักษ์โลกรับเทรนด์ใหม่

พามาเปิดบ้าน “ไทยกูลิโกะ” กางแผนครบรอบ 55 ปี ดูแล Health & Wellness ผู้บริโภค ลุย R&D-ESG ปั้นสินค้าขนม-สินค้าสุขภาพตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

SHORT CUT

  • คนรักขนมขบเคี้ยว (snack food) สาย กินจุ๊บ กินจิ๊บ กินจุ๊บจิ๊บ คงไม่มีใครไม่รู้จักขนมป๊อกกี้ เพรทซ์ พีจอย แอลฟี่ โคลอน
  • โดย ขนมเหล่านี้มีจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป และร้านสะดวกซื้อ แต่…เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ว่าขนมเหล่านี้มีบริษัทแม่อยู่ที่ “แดนอาทิตย์อุทัย” ญี่ปุ่น
  • พามาเปิดบ้าน “ไทยกูลิโกะ” กางแผนครบรอบ 55 ปี ดูแล Health & Wellness ผู้บริโภค ลุย R&D-ESG ปั้นสินค้าขนม-สินค้าสุขภาพตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

พามาเปิดบ้าน “ไทยกูลิโกะ” กางแผนครบรอบ 55 ปี ดูแล Health & Wellness ผู้บริโภค ลุย R&D-ESG ปั้นสินค้าขนม-สินค้าสุขภาพตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

เชื่อเหลือเกินว่าคนรักขนมขบเคี้ยว (snack food) สาย กินจุ๊บ กินจิ๊บ กินจุ๊บจิ๊บ คงไม่มีใครไม่รู้จักขนมป๊อกกี้พรทซ์ พีจอย แอลฟี่ โคลอน ขนมเหล่านี้มีจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป และร้านสะดวกซื้อ แต่…เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้ว่าขนมเหล่านี้มีบริษัทแม่อยู่ที่ “แดนอาทิตย์อุทัย” ญี่ปุ่น ที่เข้ามาเปิดธุรกิจที่ไทยมากว่า 55 ปี แล้ว ด้วยการปรับรส ปรับสูตรต่างๆ มากมายให้เข้ากับจริตคนไทย จนครองใจคนไทยได้อย่างสมศักดิ์ศรี

#SPRiNG มีโอกาสร่วมทริปเปิดบ้านดูไลน์การผลิตของโรงงาน บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งต้องบอกได้คำเดียวว่า กระบวนการผลิต และโรงงาน ของเขาสะอาดมาก (ก ล้านตัว) รวมถึงมีเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆมาปรับใช้อย่างล้ำเลิศ นอกจากนี้ยังเป็นโรงงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และมีการนำพลังงานสะอาดมาใช้มากขึ้น มีการติดตั้งแผ่นโซลาร์เซลล์มากถึง 5,000 แผ่น อีกทั้งยังเป็นโรงงานที่มีการจัดการขยะ และของเสียจากกระบวนการผลิตให้เหลือน้อยที่สุด รวมถึงการทำ ESG อื่นๆ อย่างเต็มสูบ เพื่อปรับองค์กรให้สู่ยุคที่ต้องทำธุรกิจแบบรักษ์โลก

เปิดบ้าน! “ไทยกูลิโกะ” ปั้นอาณาจักรแบบรักษ์โลกรับเทรนด์ใหม่

พูดคุยกับ “เฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด กล่าวว่า ตลอด 55 ปีที่ผ่านมา “ไทยกูลิโกะ” ได้ยืนหยัดเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภค ส่งต่อ “ความสุข” ให้แก่ผู้บริโภคผ่านผลิตภัณฑ์อย่าง ป๊อกกี้ เพรทซ์ พีจอย แอลฟี่ และโคลอน เป็นแรงผลักดันสำคัญของตลาดบิสกิตและขนมหวานในประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ในวาระครบรอบ 55 ปีในปี 2025 นี้ บริษัทจึงเตรียมเดินหน้าขับเคลื่อนความสุขของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ “5 New” เพื่อสร้างมิติใหม่ของประสบการณ์การบริโภค ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ รวมถึงตลาดบิสกิตในประเทศไทยที่มีมูลค่ากว่า 17,471 ล้านบาท (ที่มา: Nielsen Full year 2024)

เปิดบ้าน! “ไทยกูลิโกะ” ปั้นอาณาจักรแบบรักษ์โลกรับเทรนด์ใหม่

ทั้งนี้เป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ Overseas ของบริษัท เอซากิ กูลิโกะ (บริษัทแม่กูลิโกะในญี่ปุ่น) ให้ขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย 91,000 ล้านเยน หรือเติบโตประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปี 2567 พร้อมทั้งส่งมอบความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีให้ผู้บริโภคในประเทศไทย ซึ่งของไทยกูลิโกะได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของปี 2568 ไว้มากกว่าญี่ปุ่นที่ตัวเลขสองหลัก

พร้อมกันนี้ยังเปิดแผนการตลาดใหม่ๆ ไม่มองแค่ฐานลูกค้าเดิมที่เป็นกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน แต่ยังมองไปถึงตลาดใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Gen Z, Gen Alpha กลุ่มคนรักสุขภาพ ไปจนถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มองผลิตภัณฑ์ของกูลิโกะที่จำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเป็นของฝากชั้นยอด ผ่านกลยุทธ์ “5 New” เพื่อสร้างมิติใหม่ของประสบการณ์การบริโภค ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ รวมถึงตลาดบิสกิตในประเทศไทย และจะช่วยตอบโจทย์การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมทั้งส่งมอบความสุข สามารถครองใจผู้บริโภคในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจ Health & Wellness อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามยังมองว่า ในปี 2568 ตลาดบิสกิตยังไปต่อได้ โดยมีอัตราการเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งแบรนด์ในตลาดบิสกิตมีไม่ต่ำกว่า 50-60 แบรนด์ จำนวนผู้เล่นทั้งไทย จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฯลฯ โดยบริษัทจะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจที่เข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันกำลังการผลิตส่งออกอยู่ที่ประมาณ 50% จากกำลังการผลิตทั้งหมด ซึ่งส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งในไทยด้วย

เปิดบ้าน! “ไทยกูลิโกะ” ปั้นอาณาจักรแบบรักษ์โลกรับเทรนด์ใหม่

สำหรับกลยุทธ์ 5 New ประกอบด้วย 1. New R&D ยึดจุดแกร่งของไทยกูลิโกะในการเป็นศูนย์การวิจัยและพัฒนา (R&D Center) 1 ใน 3 แห่งของกูลิโกะทั่วโลก เดินหน้าวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่โดยยืนบนพื้นฐานความต้องการของผู้บริโภค (Customer-Based R&D) เพื่อให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละช่วงวัย

2. New Innovation สรรค์สร้างนวัตกรรมผ่านสินค้าและการทำการตลาด สร้างความแปลกใหม่และสีสันให้ตลาด ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่อีกราว 8-10 รายการในปีนี้ ผ่านสินค้า 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Premium Range และกลุ่ม Thai Taste สะท้อนรสนิยมและเอกลักษณ์ความเป็นไทย ตอบโจทย์ทั้งตลาดในประเทศ ตลาดนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อเป็นของฝาก ตลอดจนกลุ่มคนรุ่นใหม่

3. New Market ขยายฐานลูกค้าจากกลุ่ม B2C สู่การบุกตลาด B2B มากยิ่งขึ้น ด้วยการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมอัลมอนด์ โคกะรสชาติต่างๆ ไปยังร้านคาเฟ่และคอฟฟี่เชน ที่มีสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องใช้นมอัลมอนด์เป็นส่วนผสม รวมถึงพิจารณาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ พร้อมทั้งจัด Event Marketing ดึงดารา-เซเลบ จัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับคนรุ่นใหม่ ตอกย้ำจุดยืนของบริษัทที่ใส่ใจสุขภาพด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Wellness) ของผู้บริโภค

เปิดบ้าน! “ไทยกูลิโกะ” ปั้นอาณาจักรแบบรักษ์โลกรับเทรนด์ใหม่

4. New ESG Drive ขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ของบริษัทด้วยกิจกรรมใหม่ๆ ด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง อาทิ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่โรงงานผลิตหลักของบริษัท คือโรงงานบางกะดี ปริมาณ 2.8 เมกะวัตต์พีก (MWp) ต่อวัน ซึ่งติดตั้งเสร็จสิ้นและเริ่มดำเนินงานเต็มรูปแบบตั้งแต่ ก.พ.ที่ผ่านมา คาดว่าจะลดปริมาณคาร์บอนได้อย่างน้อย 1,700 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 50% ภายในปี 2030

5. New Partner & Collaboration เดินหน้าจับมือพันธมิตรใหม่ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อร่วมสร้างประสบการณ์การบริโภคที่แตกต่าง

ไม่เพียงเท่านี้บริษัทยังได้จับมือ Butterbear ทำสินค้าพรีเมียมที่ระลึก การใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภค ทั้งการเพิ่มสารอาหารและลดโซเดียมในผลิตภัณฑ์ขนม การออกผลิตภัณฑ์ Limited Edition อย่าง Pocky Rose รวมถึงการจัด Event Marketing อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่วิจัยและพัฒนาเสร็จสิ้นแล้ว เตรียมปล่อยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ Pretz รสแกงเขียวหวานไก่ ซึ่งคาดว่าจะวางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคมนี้

เปิดบ้าน! “ไทยกูลิโกะ” ปั้นอาณาจักรแบบรักษ์โลกรับเทรนด์ใหม่

ทั้งหมดคือ เรื่องราวของอาณาจักรของ ไทยกูลิโกะ ที่ถือว่าเป็นผู้เล่นหลักในตลาดบิสกิตของไทยมานานกว่า 50 ปี ก่อตั้งขึ้นในปี 2513 และเติบโตอย่างมั่นคงในฐานะตลาดที่สำคัญของกูลิโกะในอาเซียน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีผ่านผลิตภัณฑ์ในเครือ ปัจจุบัน มีกลุ่มสินค้าในประเทศไทยทั้งสิ้น 2 กลุ่มหลัก ภายใต้หลากหลายแบรนด์

ประกอบด้วย 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ขนม ได้แก่ ป๊อกกี้, พีจอย, เพรทซ์, ไจแอนท์ คาปุลิโกะ, โคลอน, ทีนนี่, แอลฟี่  2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ Health & Wellness เครื่องดื่มน้ำนมอัลมอนด์ภายใต้แบรนด์อัลมอนด์ โคกะ ต้องจับตาดูต่อไปว่าไทยกูลิโกะ จะมีอะไรตื่นเต้นๆให้ผู้บริโภคได้รอดูอีกต่อจากนี้ไป!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

related