กรุงปารีสเตรียมปิดถนน 500 สาย เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับคนเดินเท้า นักปั่นจักรยาน และพื้นที่สีเขียว โดยเน้นถนนใกล้โรงเรียน ลดที่จอดรถ และแทนที่ด้วยต้นไม้
ว่ากันว่าไอเดียการสร้างเมืองจะแปรผันไปตามค่านิยมของผู้คนตามแต่ละยุคสมัย ล่าสุด ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ลงประชามติ เห็นชอบ “ปิดถนน 500 สาย” ทั่วเมือง เพื่อเปิดทางให้กับกลุ่มคนเดินเท้า นักปั่นจักรยาน และหันไปสร้างพื้นที่สีเขียว (green space)
เมื่อพลิกไปดูแผนอย่างละเอียดก็พบว่า ปารีสเตรียมสร้างทางเดินเท้า 5-8 แห่งต่อละแวกชุมชน โดยจะปรึกษากับผู้คนในท้องถิ่นในฤดูใบไม้ผลิ เพื่อตัดสินใจว่าถนนเส้นใดเหมาะสมที่สุด เบื้องต้น ตั้งงบประมาณไว้ที่ 500,000 ยูโรต่อถนนหนึ่งเส้น หรือราว 18.3 ล้านบาท
โดยจะเน้นไปที่ถนนใกล้ ๆ โรงเรียน โดยลดพื้นที่จอดรถยนต์ และจุดจอดรถยนต์ แล้วแทนที่ด้วยการทำทางเดิน 2 ใน 3 ของพื้นที่ และส่วนที่เหลือจะปลูกต้นไม้เติมพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง
ผู้ผลักดันแผนเปลี่ยนเมืองในครั้งนี้คือ แอนน์ ไฮดาลโก นายกเทศมนตรีกรุงปารีส ซึ่งอยู่ในช่วงท้าย ๆ ของการดำรงตำแหน่ง ต้องบอกว่าไฮดาลโกเริ่มผลักดันนโยบายเมืองสีเขียวมายาวนาน โดยตั้งแต่ปี 2563 เธอสามารถลดพื้้นที่จอดรถตามถนนทั่วปารีสไปแล้ว 300 สาย และหันไปปลูกต้นไม้แทน
ฟังดูคลับคล้ายคลับคลาว่า ชาวปารีสที่ออกมาลงคะแนนเสียงดูจะตระหนัก และเล็งเห็นว่าปารีสควรเปลี่ยนเป็นเมืองสีเขียว แต่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นี่เป็นเสียงส่วนน้อย เพราะคิดเป็น 4% ของผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง
แน่นอนว่า ประชาชนอีกกลุ่มใหญ่ ๆ ไม่ค่อยพอใจนโยบายของไฮดาลโกเท่าไรนัก อาทิ พ่อค้าแม่ค้า และคนในท้องถิ่นบางคนในย่านมงมาทร์ ที่มักมีผู้คนไปเยือนจำนวนมาก กังวลว่า การสร้างถนนคนเดิน และกำจัดที่จอดรถรอบๆ มหาวิหารซาเคร-เกอร์ อาจทำให้ชีวิตประจำวันของคนในท้อง ถิ่นมีความซับซ้อนโดยไม่จำเป็น
อย่างไรก็ดี วัตถุประสงค์หลักของนโยบายทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เพื่อการลดมลพิษ การส่งเสริมการเดิน และการขี่จักยานไป-กลับจากโรงเรียน ลดผลกระทบจากปรากฏการณ์ และเกาะความร้อนของเมือง ด้วยการนำพื้นที่สีเขียวมาช่วยปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม
อนึ่งว่ากรุงปารีสให้คำมั่นสัญญาในแผนสภาพภูมิอากาศปี 2024-2030 ว่าจะกำจัดที่จอดรถ 60,000 แห่ง และปลูกต้นไม้ทดแทน
ที่มา: Bloomberg
ข่าวที่เกี่ยวข้อง