SHORT CUT
ดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เผยแผนการก่อสร้าง “Therme Dubai” รีสอร์ทเพื่อสุขภาพที่สูงที่สุดในโลก มาพร้อมน้ำตก 3 แห่ง สวนพฤกษศาสตร์ในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในคอนเซ็ปต์อาคารประหยัดพลังงาน เน้นการรีไซเคิลและใช้พลังงานสะอาด เตรียมเปิดให้บริการในปี 2028
ทางการนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) ทุ่มงบประมาณ 2,000 ล้านเดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในการสร้างรีสอร์ทเพื่อสุขภาพที่สูงที่สุดในโลก ความสูง 100 เมตร ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “Therme Dubai” ตั้งเป้าเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ ที่รวบรวมน้ำตก 3 แห่ง สระว่ายน้ำ สวนพฤกษศาสตร์ในร่มขนาดใหญ่สุดในโลกและสิ่งอำนวยความสะดวกนานาชนิดเอาไว้ในที่เดียวกัน
“Therme Dubai” ได้รับการออกแบบโดย Diller Scofidio + Renfro บริษัทชื่อดังจากสหรัฐฯ และจะตั้งอยู่ใกล้กับอาคารสูงระฟ้า One Za'abeel ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของตึกที่สูงที่สุดในโลก อย่าง Burj Khalifa ได้จากระยะไกล
In May 2024, Dubai marked a new chapter in its pursuit of enhancing the well-being of its community under His Highness Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum's visionary leadership with the launch of the Quality of Life Strategy 2033. This ambitious roadmap aims to establish our… pic.twitter.com/tnS3po6ddV
— Hamdan bin Mohammed (@HamdanMohammed) February 4, 2025
ตัวอย่างของโครงการสร้าง “Therme Dubai” ที่ได้รับการเผยแพร่ออกมา มุ่งให้ความสำคัญกับบริเวณจุดศูนย์กลางของโครงการรีสอร์ทที่มาพร้อมกับน้ำตก 3 แห่ง แต่ละแห่งจะมีความสูง 18 เมตร ซึ่งคาดว่าจะต้องติดตั้งลิฟต์หรือบันไดเลื่อนเพื่ออำนวยความสะดวกผู้มาเยือนที่ต้องการขึ้นไปด้านบน
ส่วนโครงสร้างอาคารจะได้รับการหุ้มด้วยโครงสร้างแผ่นเปลือกบางที่มีน้ำหนักเบาและโปร่งใส เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เย็นสบายในทุกสภาพอากาศ และยังทำให้อาคารมีรูปลักษณ์โดดเด่นเตะตาและล้ำสมัย
อาคาร “Therme Dubai” ยังมาพร้อมกับพื้นที่สนามเด็กเล่น สไลเดอร์น้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อความบันเทิงสุดครบครัน และเน้นให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ซึ่งนอกเหนือจากสระว่ายน้ำแล้ว ที่นี่ยังมีสระน้ำแร่ ห้องอบไอน้ำและการดูแลสุขภาพตามแนวธรรมชาติบำบัด ให้ได้เลือกใช้บริการด้วย
นอกจากนี้ “Therme Dubai” ยังจะเป็นที่ตั้งของสวนพฤกษศาสตร์ในร่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพืชพรรณกว่า 200 ชนิดจากทั่วโลก ขณะเดียวกันยังส่งเสริมให้โครงการดังกล่าวทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ด้วยการเป็นสถานที่ในการจัดแสดงงานศิลปะเชิงวัฒนธรรมและงานศิลปะในรูปแบบอิมเมอร์ซีฟจากศิลปินประเทศต่าง ๆ พร้อมคาดการณ์ว่าจะสามารถดึงดูดผู้มาเยือนได้ถึง 1.7 ล้านคนต่อปี
เจ้าหน้าที่ของนครดูไบตั้งเป้าให้ตึกหน้าตาล้ำสมัยแห่งนี้เป็นอาคารประหยัดพลังงาน จากการออกแบบอาคารซึ่งใช้หลักการทางวิศวกรรมที่เน้นความยั่งยืน ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล้ำสมัยสำหรับการบำบัดน้ำเสีย การทำความร้อนและความเย็นภายในตัวอาคาร โดยรีสอร์ทแห่งนี้จะรีไซเคิลน้ำ 90% ในสระน้ำอุ่นให้สามารถกลับมาใช้ได้ใหม่ ส่วนระบบเติมอากาศและระบบทำความเย็นราว 80% จะมาจากแหล่งพลังงานสะอาด
สำหรับการก่อสร้าง “Therme Dubai” คาดว่าจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในราวปี 2026 และมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2028 ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอันยิ่งใหญ่ภายใต้แผนการ “Dubai Quality of Life Strategy 2033” ของรัฐบาลดูไบในการยกระดับและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในปี 2033
รวมถึงการเปลี่ยนโฉมนครแห่งนี้กลายเป็นเมืองเดินได้ สำหรับส่งเสริมการเดินเท้าของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ ด้วยสิ่งแวดล้อมที่ร่มรื่นและเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับครอบครัว เพื่อให้มั่นใจว่าผู้อยู่อาศัยจะสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ในเมืองได้ภายใน 20 นาที
ที่มา: Newatlas
ข่าวที่เกี่ยวข้อง