แมลงกับคนไทยคือของคู่กัน หนึ่งในนั้นคือ "จิ้งหรีด" Super Food ที่ถึงพูดถึงว่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม แถมปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าวัว 17%
คนไทยเรานิยมกิน ‘แมลง’ กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เหยาะซอสปรุงรสนิด พริกไทยหน่อย โอ๊ย แซ่บคัก ๆ อันที่จริงต้องบอกว่ามนุษย์เรานิยมกันแมลงกันมานับหมื่นปีแล้ว เริ่มจากการที่มนุษย์ยุคโบราณเริ่มเลียนแบบสัตว์ที่กินแมลงเป็นอาหาร จนมีคำศัพท์เรียกว่า ‘Entomophagy’ หรือ ‘พฤติกรรมการกินแมลง’
ประเทศไทย มีแมลงที่กินได้ราว 154 ชนิด มีฟาร์มแมลงกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 20,000 แห่ง และในแต่ละปี คนไทยบริโภค ‘แมลงทอด' เฉลี่ยปีละ 2 ตัน เรื่องกินคนไทยไม่เป็นสองรองใครจริง ๆ
แต่...
ปัญหาด้านสภาพอากาศ และภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก กำลังทำให้ประชากรเกือบ 282 ล้านคนทั่วโลก ประสบปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหาร และนอกจากนี้ รายงานประจำปีของ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่า ปี 2566 ผู้คนกว่า 705,000 คน ประสบปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารเฉียบพลันอย่างรุนแรงที่สุด
เหตุฉะนี้ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา FAO จึงสนับสนุนให้คนหันมาบริโภคแมลงเพื่อช่วยบรรเทาวิกฤตการขาดแคลนอาหารในอนาคต และหนึ่งในแมลงที่มีการพูดถึงมากที่สุดคือ ‘จิ้งหรีด’ วันนี้ SPRiNG จะพาไปดูความเจ๋งของแมลงตัวนี้กันว่ามีดีอะไร (นอกจากขันตอนเช้า ๆ ) และแว่วมาว่ามันช่วยโลกด้วยล่ะ
เกริ่นไปเบื้องต้นแล้วว่า จิ้งหรีดมีอยู่จำนวนมาก และถูกปากคนไทย แถมมีสารอาหารสูง มีกรดอะมิโนครบ 20 ชนิด, วิตามินบี 2, แคลเซียม, ธาตุเหล็ก, บี 12, พรีไบโอติก, ไฟเบอร์ แถมมีโปรตีนมากถึง 70% ขณะที่อกไก่มีโปรตีนราว 31% และเนื้อสันนอก 29%
นอกจากสารอาหารที่ครบถ้วนแล้ว จิ้งหรีดยังตอบโจทยน์เรื่องความยั่งยืนด้วย เนื่องจากจิ้งหรีดต้องการน้ำ และอาหารน้อยกว่าวัวถึง 1,000 เท่า กล่าวคือ จิ้งหรีดต้องการอาหารเพียง 2 กิโลกรัม เพื่อให้ได้โปรตีน 1 กิโลกรัม ขณะที่วัวต้องการอาหารมากถึง 10 กิโลกรัม
เมื่อไปพลิกตารำดูแล้ว การเลี้ยงจิ้งหรีดใช้น้ำแค่ 3.7 ลิตร เพื่อให้ได้โปรตีน 1 กิโลกรัม ขณะที่วัวใช้น้ำมากถึง 9,250 ลิตร แถมเพาะเลี้ยงได้ง่าย ใช้เนื้อที่น้อย และการหันมาบริโภคจิ้งหรีดยังสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำฟาร์มได้ 17% เมื่อเทียบกับวัว
ปัจจุบัน มีการนำจิ้งหรีดไปแปรรูปเป็นอาหารหลากหลายเมนูด้วยกัน ไม่ว่าจะบดเป็นผงโปรตีน หรือแม้แต่นำไปทำเป็นเส้นพาสต้า เบอร์เกอร์เลิศรส และเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2565 สายการบินสัญชาติญี่ปุ่น Zipair ได้มีการนำจิ้งหรีดขึ้นไปเสิร์ฟบนเครื่องบินด้วย
แต่ใช่ว่าจะหยุดอยู่แค่อาหารเท่านั้น เพราะปัจจุบัน หลาย ๆ บริษัทกำลังพัฒนาจิ้งหรีดเพื่อนำไปใช้เป็นส่วนผสมของยา เครื่องสำอาง และสามารถทำเป็นปุ๋ยได้อีกด้วย เป็นไง...ตัวเล็กกระจ้อยร่อย แต่สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ เลยว่าไหม